บทความแนะนำ

บทความ ศาสตร์แห่งดวงดาว
เบอร์มงคล 100% ผลรวมดี ทั้งคู่ ทำไมคนหนึ่งชีวิตดีแต่อีกคนชีวิตแย่?!?!?
ตัวเลขส่งเสริมการเงินและโชคลาภ
กลุ่มส่งเสริมการเงิน ตัวเลขมหาอุจจ์
กลุ่มส่งเเสริมการเงิน มหาจักร
กลุ่มส่งเเสริมการเงินราชาโชค
กลุ่มแสดงถึงความมั่นคงทางการเงินและรายได้
ตัวเลข ปัญหา/อุปสรรค/ศัตรู
ตัวเลขส่งเสริมเรื่อง ความรัก และ คู่ครอง
ตัวเลขส่งเสริมเรื่อง ลูกค้าและเพื่อนฝูง
ตัวเลขส่งเสริมเรื่อง ผู้อุปถัมภ์ ความสำเร็จ และ ความรุ่งเรือง
ตัวเลข วินาสน์ (ล่มสลาย,ฉับพลัน,เปลี่ยนแปลง,ที่ลับ,คนแปลกหน้า)
ประสบการณ์ผู้ที่ใช้เบอร์พลังดวงดาวตามลัคนา และมีเงินซื้อรถ 2 คัน บ้าน 2 หลัง
Case Study : เปลี่ยนเบอร์ตามหลักศาสตร์แห่งดวงดาวแล้วขายที่ดินได้ในราคาสูง
แย่แล้ว !!! เบอร์มังกร (789) ทำฉันเป็นหนี้ !!!!
ว่าไงนะ!!! เบอร์หงส์ (289) พ่นพิษ !!! เสียบ้านที่อุตส่าห์ซื้อมา
เบอร์เสน่ห์ตามหลักเลขศาสตร์ VS เลขการเงินตามศาสตร์แห่งดวงดาว
กำลังดวงดาว 9 หมายถึงอะไร?
เบอร์มงคล 10 หลัก ผลรวมดี ทำไมชีวิตฉันจึงลำบาก!!!

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิธีทำบุญ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิธีทำบุญ แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2560

เคล็ดวิธีทำบุญเสริมความรัก จากตำรับหลวงพ่อเงิน กตสาโร


มีหลายท่านอยากจะหาเคล็ดที่ทำบุญอย่างไร จะช่วยเสริมผลบุญให้ชีวิตคู่มีแต่ความสุขหรือเสริมผลบุญไม่ให้ชีวิตขมขื่น หรือระหว่างเรากับคนรักทำไมทะเลาะกันบ่อย ทั้งที่ไม่เป็นเรื่อง จู่ๆแฟนเราก็เอาแต่เข้าใจผิดหึงไร้สาเหตุ ชีวิตนี้ไม่มีความสุข ผมขอแนะนำวิธีทำบุญเพื่อเสริมความรัก ของหลวงพ่อเงิน กตสาโร และหวังว่าอานิสงส์ผลบุญจากวิธีนี้จะช่วยให้ชีวิตคู่ชีวิตรักเดินหน้าต่อไปได้ครับ

หลวงพ่อเงิน กตสาโร ท่านบอกว่ามันต้องแก้ที่นิสัยก่อนคือต่างฝ่ายต่างเอาความดีความจริงเข้าหากัน และหมั่นถือศีล 5 โดยเฉพาะข้อ 3 ไว้ให้มั่น จะทำให้ชีวิตรักไปได้ดังจุดหมาย หลวงพ่อเงินกล่าวว่าการทำบุญจะช่วยให้ผลแห่งความดีและกุศล ชะลอกรรมเก่าให้ออกผลน้อยลงหรือช้าลง

หลวงพ่อเงินท่านว่าคนที่ชีวิตรักไม่ราบรื่นเกิดจากกรรมเก่าที่เคยพรากเนื้อคู่ สามี หรือภรรยาเขามา หรืออิจฉาทำให้คนรักผิดใจซึ่งกันและกัน หรือชาติที่แล้วเราอาจข่มเหงรังแกน้ำใจคนรักเราหรือไปทำบุญกับคนรักแบบไม่เต็มใจ

หลวงพ่อเงินท่านจึงบอกให้ลองเอาเคล็ดนี้ไปใช้ดูเพื่อขออโหสิกรรมเก่าต่อกัน ก็คือให้ฝ่ายที่ผิดหวังหรือเป็นทุกข์ในความรักทำสังฆทานขออโหสิกรรมเก่า ดังนี้

1.เตรียมเทียนสีผึ้งขาวหอมอย่างดี หนัก 2 บาท 1 คู่ ธูปหอมพิเศษ 1 แพค
2.ให้จัดสังฆทานสดเป็นอาหารหวานคาว และขนมหวานที่นามเป็นมงคล และดอกไม้หอม (ห้ามเป็นดอกกุหลาบ)
3.และให้จัดเครื่องสังฆทานอีกชุดเป็นข้าวของเครื่องใช้ในการทำความสะอาดวัด เช่นน้ำยาล้างห้องน้ำ หรือสบู่
4.ปัจจัยเป็นจำนวนเลขคู่
5.พระพุทธรูปปางประจำวันของเราขนาด 3 นิ้วขึ้นไป 1 องค์

ให้จัดเตรียมชุดสังฆทานเครื่องใช้ และปัจจัย พระพุทธรูป เหล่านี้ก่อนวันไปทำบุญ 1 วัน ในตอนกลางคืนให้จุดธูปเทียนบูชาพระที่บ้านแบบปกติ เมื่อเสร็จแล้วให้อธิษบานกับเครื่องสังฆทานดังนี้

"อุกาสะ อุกาสะ สังฆทานของข้าพเจ้าขาวดังดอกบัวประนมขึ้นเหนือหัวถวายเป็นพระพุทธบูชา พระธรรมบูชา พระสังฆบูชา เนื่องด้วยข้าพเจ้ามีเคราะห์ในเรื่องความรัก หรือชีวิตครอบครัว (แล้วก็แล้วแต่อธิษฐานว่าท่านจะขอเรื่องใด) ด้วยอานิสงส์ที่จะไปถวายสังฆทานนี้ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่จองเวรข้าพเจ้าเรื่องความรัก ขอให้อโหสิกรรมต่อกันอย่ามาเบียดเบียนกันอีกเลยตั้งแต่บัดนี้ตราบเท่าเข้าสู่นิพพานเทอญ"

เสร็จแล้วให้ตั้งเครื่อสังฆทานไหว้หน้าพระประธานในบ้าน พอรุ่งเช้าก็เอาสังฆทานนี้ไปถวายพระ โดยก่อนจะนำเครื่องสังฆทานไปถวายพระให้จุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทางดังนี้

ตั้งนะโม 3 จบ
"อิติสุคโต อรหังพุทโธ นโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภุมเทวา ขมามิหัง
ลูกขอกราบพระภูมิมงคลเจ้าที่วันนี้ลูกจะขอไปทำบุญเสดาะห์เคราะห์เรื่องชีวิตคู่ขอเสด็จพระภูมิมงคลเจ้าที่จงโปรดอนุโมทนาร่วมกับลูกและดลบันดาลให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้นด้วยเถิด"

เมื่อไปถึงวัดก็ให้ถวายสังฆทานอย่าเลือกพระสงฆ์ เจอท่านใดก็ถวายเลย เสร็จแล้วให้กรวดน้ำดังนี้

"อิทังปุญญังพะลัง ขอเทพเจ้าเหล่าพยดาทั้งหลายมีพระอินทร์พระพรหม พญายมกาล ท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ สิริคุตตอำมาตย์ที่เป็นนายบัญชี ท้าวมาตลี ท้าวทศรถ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักข์ แม่นางพระธรณีเจ้าเอ๋ย จงเป็นสักขีพยาน ให้แก่ข้าพเจ้า วันนี้ข้าพเจ้าได้ถวายเครื่องสังฆทานบูชาคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กรรมใดเวรใดในอดีตเรื่องชีวิตคู่ที่ข้าพเจ้าได้กระทำไว้แล้วขอจงอดโทษกรรมและอโหสิกรรมนั้นด้วยเถิด"

เป็นอันเสร็จพิธีทำบุญเพื่อเสริมรักแก้ไขชีวิตคู่ ตำรับหลวงพ่อเงิน กตสาโร และหลวงพ่อเงินท่านแถมท้ายว่า หากคิดแก้ไขเรื่องกรรมชีวิตคู่มีอุปสรรคท่านให้นั่งสมาธิภาวนาพุทโธหรืออะไรก็ได้เสร็จแล้วแผ่ให้เจ้ากรรมนายเวร เป็นประจำจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นครับ

ที่มา :เคล็ดวิธีทำบุญเสริมความรัก จากตำรับหลวงพ่อเงิน กตสาโร(board.palungjit.org)

วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2559

วิธีแก้กรรม 45 อย่าง



1. กรรมที่ไม่มีลูก 

กรรมจาก การทำร้ายลูกของสัตว์อื่น พรากสัตว์อื่นจากพ่อแม่หรือเคยข่มเหงลูกคนอื่น
ลดกรรม ด้วยการงดกินเนื้อสัตว์ทุกๆ 7 วัน ในทุกๆเดือนทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญบริจาคทานที่มูลนิธิสัตว์หรือ มูลนิธิเด็กอ่อน

2. เจ็บป่วยบ่อย หรือเป็นโรคร้าย
กรรมจาก เคยทำทารุณกรรมต่อสัตว์
ลดกรรม ด้วยการทำบุญทำทานกับสัตว์อนาถา ให้อาหารให้ความเมตตา ซื้อยาหรือบริจาคเงินที่โรงพยาบาลสงฆ์ ทำบุญปล่อยเต่า งดกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต

3. ตาบอดหรือเป็นโรคตา 
กรรมจาก เคยทำร้ายสัตว์ที่ดวงตา หรือไม่เคยทำบุญเติมน้ำมันตะเกียงในชาติก่อน หรือเคยทำลายไฟฟ้าของวัด ของที่สารธารณะ
ลดกรรม ซื้อโคมไฟ หลอดไฟถวายวัด ถวายเทียนห่อใหญ่ ถวายไฟฉาย เติมน้ำมันตะเกียงทุกวันพร! ะ บริจาคเงินในกล่องซื้อน้ำมันเติมตะเกียงที่วัด

4. ถูกรถเฉี่ยวชน ถูกลูกหลง ถูกสัตว์กัดต่อย 
กรรมจาก จากเคยเป็นคนพาลเกะกะเกเร หาเรื่องเดือดร้อนให้ผู้อื่น มักรังแกและสาปแช่งผู้อื่นอยู่เสมอ
ลดกรรม หมั่นพูดดี มีวาจาไพเราะ

5. สูญเสียคนใกล้ชิด 
กรรมจาก เคยยิงนกตกปลา
ลดกรรม ทำบุญไถ่ชีวิตโค กระบือ งดกินเนื้อสัตว์อย่างน้อยสัก 1อย่างชั่วชีวิต หรือกินเจทุกๆ 3 เดือน ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

6.ถูกนินทา ถูกให้ร้าย 
กรรมจาก เคยพูดจาให้เป็นเหตุให้คนอื่นเป็นทุกข์หรือเดือดร้อน
ลดกรรม พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี พูดดี พูดให้คนอื่นเกิดประโยชน์ พูดให้ผู้อื่นมีความสุข

7. มักเดือดร้อนเพราะไฟ ไฟไหม้บ้าน ไฟดูด 
กรรมจาก เคยลบหลู่พระสงฆ์ และศาสนา
ลดกรรม ตักบาตรทุกวันพระ ทำบุญถวายสังฆทานทุกเดือน ฟังเทศน์ฟังธรรมทุกวันพระ หรือทุกๆเดือนในวันพระ ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกจ่ายฟรี

8. ขาดบารมี ไร้ญาติขาดมิตร 
กรรมจาก ไม่เคยไปร่วมงานบุญงานศพ
ลดกรรม ร่วมทำบุญงานศพ บริจาคเงิน หรือร่วมด้วยแรงกายช่วยงานอื่นๆในงานศพ เช่นทำอาหาร จัดดอกไม้

9. ตั้งหลักปักฐานไม่ได้ โยกย้ายบ่อย 
กรรมจาก ไม่เคยร่วมทำบุญสร้างโบสถ์สร้างวิหาร แก่วัดวาอารามต่างๆ
ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างหลังคาวิหาร ร่วมทำบุญฝังลูกนิมิต หมั่นไปไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ณ เมืองที่ตนอยู่อาศัย

10. มักถูกรังแก ถูกเบียดเบียน 
กรรมจาก ไม่เคยบวช หรือทำบุญงานบวช
ลดกรรม บวช ด้วยจิตศรัทธาปวารถาอย่างบริสุทธิ์ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝงจะบวช 7 วัน หรือ 15 วัน 1 เดือน 1 พรรษา แล้วแต่จิตศรัทธา ถ้าเป็นสตรีจะบวชชีพราหมณ์ หรือถือศีล 8 ตามเวลาที่สะดวกและตั้งจิตศรัทธา หรือร่วมทำบุญงานบวชอย่างสม่ำเสมอเท่าที่จะทำได้

11.ไม่มีคนชื่นชมเอ็นดู ขาดเสน่ห์ 
กรรมจาก ไม่เคยถวายของหอม
ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระทุกวันพระ ถวายธูปหอม เทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย ทองคำเปลว ประน้ำอบน้ำปรุง ประพฤติดี ปฏิบัติชอบต่อผู้อื่น คิดดี ทำดี พูดดี ให้ผู้อื่นได้ดี มิให้ร้ายผู้ใด

12. เป็นที่รังเกียจ มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว
กรรมจาก ทำติเตียนดูแคลน ผู้ที่ชอบทำบุญทำทาน
ลดกรรม หมั่นทำบุญทำทานอย่างสม่ำเสมอ ฟังเทศน์มหาชาติทุกๆปี ชักชวนผู้อื่นให้ร่วมทำบุญหรือบริจาคทานเป็นการบอกบุญผู้อื่น
พิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจกฟรี

13. ไปไหนมาไหนลำบาก มีแต่อุปสรรค 
กรรมจาก เคยทำลายหนทางสัญจรของวัด หรือของชาวบ้าน หรือทำให้ทางสัญจรสาธารณะได้รับความไม่สะดวก
ลดกรรม บริจาคทรัพย์หรือแรงกายช่วงสร้างสะพาน สร้างทางอันเป็นประโยชน์แก่วัด หรือชุมชนเล็กๆ ช่วยผู้คนยากไร้ให้
ได้มียวดยานพาหนะหรือทางสัญจรที่สะดวก

14. เป็นคนรับใช้เขาร่ำไป 
กรรมจาก เคยเนรคุณผู้ที่เคยมีพระคุณแก่ตน
ลดกรรม ตอบแทนผู้มีคุณด้วยความกตัญญู ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูป พระประธาน ทำทานทั้งกับคนและสัตว์

15. ขัดสน อดมื้อกินมื้อ 
กรรมจาก เคยละเว้นการใส่บาตร ละเว้นการให้ทาน เมื่อมีคนยากไร้มาขอทานอาหารและน้ำ
ลดกรรม แบ่งปันอาหาร น้ำ เสื้อผ้า แก่คนยากไร้อนา! ถา แม้ไม่มีเงินก็แบ่งปันสิ่งของตามที่มี ตักบาตรทุกเช้าหรือทุกวันพระ

16. อาภัพคู่ ร้างคู่ 
กรรมจาก เคยผิดลูกผิดเมียเขา
ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพงานแต่งงานคู่บ่าวสาวที่ยากจน ถวายของเป็นคู่ เช่น แจกันคู่
เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ เป็นต้น

17. ได้คู่ที่เลวร้าย ทำร้ายตนหรือทำให้เป็นทุกข์ 
กรรมจาก เคยข่มขืนเขาในชาติก่อน เคยทุบตีทำร้ายคู่
ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

18. อยู่โดดเดี่ยวยามบั้นปลาย
กรรมจาก เคยจับสัตว์ขัง
ลดกรรม ทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญทำทานแก่เด็กอนาถาและสัตว์อนาถา

19. รูปร่างหน้าไม่งดงาม 
กรรมจาก ไม่เคยถวายดอกไม้ของหอม
ลดกรรม ถวายพวงมาลัยดอกไม้สด ดอกไม้หอม ทำบุญบริจาคดวงตา บริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล

20. มักถูกโกง ถูกเบี้ยวเงิน 
กรรมจาก เคยคดโกงผู้อื่น!
ลดกรรม สละทรัพย์บริจาคร่วมการกุศลต่างๆ ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวรทุกๆเดือน

21. พิการ ร่างกายไม่สมประกอบ 
กรรมจาก เคยทุบตีพ่อแม่ ด่าพ่อแม่ หรือทำร้ายพ่อแม่
ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระ ปล่อยนกปล่อยปลา ถือศีล 5ศีล 8 เจริญภาวนา นั่งวิปัสสนากรรมฐาน

22. มีคดีความ 
กรรมจาก เคยพบคนทุกข์ร้อนแล้วไม่ช่วยหรือพยายามหาทางช่วยเหลือ
ลดกรรม หมั่นทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา นั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือนๆละ 7 วัน

23. ไร้ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง 
กรรมจาก ไม่สงเคราะห์คนอนาถา ที่มาขออาหาร ขอชายคาหลบฝน ไม่มีน้ำใจช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก
ลดกรรม ร่วมทำบุญซื้อกระเบี้องหลังคาโบสถ์ หมั่นไปกราบไหว้บูชาศาลหลักเมือง ทำบุญทำทานแก่สัตว์พิการหรือสัตว์จรจัด

24. จิตใจขุ่นมัว ดุดัน ขี้โมโห 
กรรมจาก มักตะหนี่ในการทำบุญ
ลดกรรม สวดมนต์ไหว้พระ ทุกวันพระ ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 5 หรือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือน บริจาคทาน แบ่งปันเงินทองหรือ สิ่งของแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือร่วมทำบุญบริจาคทานกับมูลนิธิสถานสงเคราะห์ และวัดวาอารามต่างๆ

25. ไม่มีชื่อเสียง 
กรรมจาก เคยติฉินนินทาทำให้ผู้อื่นเสียหาย
ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างหอระฆัง ร่วมทำบุญหล่อเทียนพรรษา ทำทานกับคนยากไร้ และสัตว์อนาถา

26. ไม่มีวาสนาบารมี 
กรรมจาก ไม่เคยนับถือชื่นชมผู้นับถือธรรมมะ
ลดกรรม ทำบุญสร้างพระพุทธรูป ทำทานกับคน

27. มีลูกหลานไม่ดี เกเร ไม่เชื่อฟัง 
กรรมจาก ทำแท้ง เคยทำร้ายคนใกล้ชิดมาก่อน และทำร้ายจิตใจครอบครัวในชาติก่อน
ลดกรรม บวชเณร โดยให้ลูกบวชหรือไปร่วมบวช จะทำให้กรรมน้อยลง ปฏิบัติธรรม อุทิศให้ลูกตนเอง

28. เจอแต่คนเอาเปรียบ 
กรรมจาก เคยเบียดเบียนเงินพ่อแม่ไว้ในอดีตชาติ เคยโกงคนไว้ในอดีตชาติ ขโมยเงินครอบครัวมาใช้
ลดกรรม หมั่นยึดถือศีล 5 ให้มั่น ไม่ดื่มเหล้า ทำให้ขาดสติ โดนโกงง่าย หมั่นสวดมนต์ อธิษฐานบารมีด้านขอพรให้พบเจอคนดีๆเข้ามาในชีวิต

29. เกิดในสกุลต้อยต่ำ 
กรรมจาก โอหัง อวดดี จิตใจคับแคบ
ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างวัด สร้างพระประธาน ทำบุญทำทานกับคนยากไร้ และสัตว์อนาถา พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี

30. ไร้สง่าราศี ขาดวาสนา 
กรรมจาก เคยเมาสุระอาละวาด ระรานผู้อื่น!
ลดกรรม นั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน ทำทานกับคนอนาถา และสัตว์อนาถา ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี

31. ไม่เจริญก้าวหน้า จิตใจเป็นทุกข์ 
กรรมจาก เคยชักจูงคนทำชั่ว
ลดกรรม ถือศีล 8 เป็นเวลา 7 วัน ทุกๆ 3 เดือน หมั่นทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน

32. จิตใจฟุ้งซ่าน เป็นทุกข์ 
กรรมจาก เคยริษยาผู้อื่น
ลดกรรม ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ปล่อยปลาลงน้ำ นั่งสมาธิ สวดมนต์บทคาถาพระชินบัญชร

33. ชีวิตตกต่ำ ทำสิ่งใดไม่เจริญ 
กรรมจาก เคยทำแท้ง
ลดกรรม ปล่อยปลาลงน้ำทุกๆเดือน จนครบ 9 เดือน หรือ 1 ปีเต็ม ถวายสังฆทาน ทำบุญใส่บาตรเสมอ

34. เป็นเมียน้อย เมียเก็บ 
กรรมจาก เคยผิดลูกผิดเมียเขามาก่อน ขืนใจเขาโดยไม่ยินยอม เคยอธิษฐานจิตร่วมกันมาว่ากี่ภพก็ขอให้ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
ลดกรรม ถวายธงคู่ ธูปคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ อย่างใดก็ได้ อธิษฐานจิตขอให้ชีวิตคู่ที่ดีขึ้น บวชชีพราหมณ์ ปีละ 1 ครั้ง 3วัน อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยล่วงเกินให้ได้รับกุศลและเปิดทางให้ชีวิตคู่ดีขึ้น ร่วมเป็นเจ้าภาพงานแต่ง เพื่อชีวิตตนจะดีขึ้นและสมหวัง สวดมนต์ขอพรทุกวันเกิดด้านความรักให้สมหวังต่อไป ทำบุญสังฆทานสด ในวันเกิดตนเอง เดือนละครั้ง เพื่ออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติและวิญญาณที่ตามมาให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรม

35. เป็นทุกข์เพราะคนในครอบครัว 
กรรมจาก เคยลำเอียง ไร้คุณธรรมในด้านครอบครัวไว้ก่อน เคยเอารัดเอาเปรียบคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดไว้ในชาติอดีตและชาติปัจจุบัน เคยทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกในอดีตชาติ
ลดกรรม ต้องบวชชีพราหมณ์ เพราะเมื่อเกิดอีกภพชีวิตจะได้ดีมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะกุศลของการบวช ปฏิบัติธรรมทำให้เจ้ากรรมนายเวร อโหสิกรรม และตนเองได้พบสิ่งที่มีกุศลมากขึ้น ยึดพรหมวิหาร 4 มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จะทำให้ชีวิตมีความเมตตา และไม่ลำเอียงเอารัดเอาเปรียบคนใกล้ชิด ทำให้วิถีชีวิตมีคนนับถือและพ้นจากความทุกข์ในเรื่องญาติพี่น้องยุ่งเกี่ยวได้ นำพระคู่บ้านคู่เมืองเข้าสักการะที่บ้าน และสวดมนต์ขอพรให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข

36. เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต 
กรรมจาก ฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์ ทำร้ายคนไว้ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ
ลดกรรม ตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติ รวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ได้กุศลและอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ปล่อยสัตว์ลงน้ำในวันเกิดตนเอง กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรได้รับและอโหสิกรรม ถวายยาเข้าวัด
หรือช่วยเหลือคนป่วย

37. เป็นมะเร็ง 
กรรมจาก รู้เห็นเป็นใจกับการทำแท้ง การทารุณสัตว์ หรือการทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่น
ลดกรรม ทำบุญใหญ่อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร และบวชชีพราหมณ์ 1 เดือน เพื่อส่งกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม
ทำบุญสร้างพระพุทธรูป สร้างโบสถ์หรือสร้างศาลาวัด ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี หมั่นนั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน

38. ค้าขายขาดทุน ทำงานไม่ก้าวหน้า 
กรรมจาก เคยลบหลู่เจ้าที่เจ้าทาง
ลดกรรม หมั่นทำบุญใส่บาตร ถวายสังฆทาน ถวายเครื่องเซ่นสังเวย เจ้าที่-เจ้าทาง หมั่นสวดมนต์บทคาถาพระชินบัญชร

39. ด้อยปัญญา 
กรรมจาก ฝักใฝ่อบายมุขในชาติก่อน หรือชักชวนคนไปทำชั่ว ดูแคลนหลักธรรมมะ
ลดกรรม พิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจก ทำบุญทำทานกับโรงเรียนของเด็กพิการหรือตามมูลนิธิต่างๆ

40. ตกงาน 
กรรมจาก เคยกลั่นแกล้งผู้อื่นในเรื่องงาน หรือแย่งงานผู้อื่น
ลดกรรม หมั่นทำบุญทำทาน ร่วมงานบุญต่างๆ ปล่อยนกปล่อยปลา

41. ไม่มีโชคลาภ 
กรรมจาก ไม่เคยสวดมนต์ไหว้พระ
ลดกรรม หมั่นทำบุญสวดมนต์ไหว้พระ ถวายธูป เทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย และทองคำเปลว

42. เรียนไม่จบ การเรียนมีอุปสรรค 
กรรมจาก ชาติก่อนปฏิเสธการฟังเทศน์ฟังธรรม
ลดกรรม หมั่นเข้าวัด ร่วมงานบุญต่างๆ ฟังเทศน์ อ่านหนังสือธรรมะ

43. มีอาชีพต้อยต่ำที่ผู้คนดูแคลน 
กรรมจาก ชาติก่อนเคยบวชด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ ไร้ความศรัทธา อาศัยผ้าเหลืองหากิน
ลดกรรม ถือศีล 5 ศีล 8 นั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน ถวายสังฆทานทุกเดือน หรือทุก 3 เดือน

44. ครอบครัวยากจน 
กรรมจาก ชาติก่อนไม่เคยบริจาคทาน
ลดกรรม หมั่นทำบุญด้วยการบริจาคทาน ถ้ามีเงินไม่มากก็บริจาคเป็นสิ่งของ แรงกาย หรือน้ำใจ ต่อผู้ตกทุกข์ได้ยาก เช่น ไปช่วยอ่านหนังสือให้มูลนิธิคนตาบอด

45. เป็นทุกข์เพราะความรัก 
กรรมจาก ชาติก่อนเจ้าชู้ หลอกผู้อื่นให้อกหัก
ลดกรรม ประพฤติดีปฏิบัติดีทั้งความคิด กาย วาจา ใจ ร่วมทำบุญงานแต่งงาน ทำสิ่งดีๆให้คนอื่นได้สมรักสม

ทีมา  : http://board.palungjit.org/f8/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-45-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87-573358.html

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

วิธีเพิ่มพลังบุญทวีคูณให้กับชีวิตอย่างง่ายๆ : หลวงปู่ดู่



1. การเพิ่มพลังบุญแบบไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว เคล็ดวิชานี้ เป็นของท่านหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านสอนไว้ว่า

-เวลาตื่นเช้ามาขณะล้างหน้าหรือดื่มน้ำให้ท่องว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อชีวิตในวันใหม่

-ก่อนกินข้าว ก็ให้นึกถวายข้าวแด่พระพุทธเจ้า

-ออกจากบ้าน เห็นคนอื่นเค้ากระทำความดี เป็นต้นว่าเห็นเค้าใส่บาตรพระ จูงคนแก่ข้ามถนน ก็ให้นึกอนุโมทนากับเขาด้วย

-เดินผ่านเห็นดอกไม้บูชาพระวางขายอยู่ ก็ให้เอาจิตนึกอธิษฐานขอถวายดอกไม้เหล่านั้นเป็นเครื่องบูชาพระรัตนตรัย โดยระลึกว่า พุทธัสสะ ธัมมัสสะ สังฆัสสะ ปูเชมิ แล้วอย่าลืมอุทิศบุญให้พ่อค้า แม่ค้าดอกไม้นั้นด้วย

-เวลาไปไหนมาไหน เห็นไฟข้างทางก็ให้นึกน้อมถวายไฟเหล่านั้นบูชาพระรัตนตรัย โดยระลึกว่า โอม อัคคีไฟฟ้า พุทธบูชา ธัมมะบูชา สังฆบูชา


2. การเพิ่มพลังบุญด้วยเงินน้อย แต่ได้อานิสงส์ยิ่งใหญ่

การสร้างบุญที่เป็นมหากุศล อาทิเช่น การสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ พระมหาเจดีย์ สร้างยอดฉัตรหรือสร้างศาสนสถานอื่นใดก็ตาม รวมถึงธรรมทานด้วย เพื่อลดวิบากกรรมหนักๆ สามารถทำได้ แม้แต่ผู้ที่มีเงินน้อย การทำบุญนี้ ไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินมาก เหมือนที่หลายๆคนในปัจจุบันเข้าใจและติดเป็นค่านิยมกัน การทำบุญทุกอย่าง ไม่ว่าจะบุญเล็ก บุญใหญ่ ให้ทำตามแต่กำลังของเราที่สามารถจะทำได้ และต้องไม่เดือดร้อนตัวเอง แม้แต่เงินสลึงเดียวก็สามารถสร้างมหากุศลได้ ขอให้เพียงเงินนั้นบริสุทธิ์ ไม่ได้ไปเบียดเบียนของใครมาก็พอ และที่สำคัญเจตนาตอนที่ทำ ต้องบริสุทธิ์ มีความยินดีในบุญที่ทำ เกิดความสุขและความอิ่มเอมใจ นั่นแหละมหากุศลทั้งสิ้น

แต่ถ้าไม่มีเงินจริงๆ ก็ยังสร้างมหากุศลได้ โดยการใช้แรงกายแรงใจในการช่วยก่อสร้าง หรือแม้แต่การไปชักชวน ป่าวประกาศให้คนมาร่วมสร้างบุญ และขออนุโมทนาบุญกับคนเหล่านั้นด้วยทุกครั้ง ก็จะได้บุญมากเช่นเดียวกัน อยู่ที่เจตนาและความตั้งใจเป็นที่ตั้ง สรุปสั้นๆ ว่า การทำบุญนั้น ไม่ว่าจะเป็นเงินเท่าใดก็ได้บุญเช่นกัน ยิ่งการทำบุญใดๆที่เป็นประโยชน์ต่อคนจำนวนมากมากหรือสังคม บุญนั้นก็จะมากขึ้นทวีคูณ ไม่มีวันหมด อาทิเช่น สังฆทาน สร้าง โรงทาน วิหาร อุโบสถ ถนน เป็นต้น จนกว่าสิ่งก่อสร้างหรือศาสนสถานนั้นๆที่ร่วมสร้างจะพังทลายไป


3. การสวดภาวนา ให้ได้บุญมากขึ้น

การสวดภาวนา คาถาศักดิ์สิทธิ์ หรือมนตราอันศักดิ์สิทธิ์นั้น ถ้าได้ทำอย่างถูกวิธีนั้น จะเป็นการเพิ่มบุญให้กับตัวเอง เพราะพลังบุญ พลังอำนาจของพระคาถาและมนตรานั้น จะถูกดึงเข้าสู่ตัวผู้สวดด้วย

เคล็ดวิธีมีอยู่ว่า โดยก่อนสวดนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิที่พร้อมจะสวดแล้ว ขอให้ตั้งจิตให้มั่นแล้วอุทิศบุญทั้งหมดที่ตนเคยทำมานั้น ส่งให้แด่ครูบาอาจารย์ ผู้เป็นเจ้าของคาถาหรือมนตรานั้นๆด้วย ซึ่งเป็นการเชื่อมบุญรูปแบบหนึ่ง และหลังจากนั้น ก็อธิษฐานขอมีส่วนร่วมในบุญของท่าน และขอมีส่วนร่วมในบุญของผู้อื่นที่ได้สวดคาถาและมนตราศักดิ์สิทธิ์นั้นด้วย เมื่อใดตามที่มีคนอื่นสวดและกระทำเหมือนกับเรา เราก็ได้บุญเพิ่มทุกครั้ง


4.การทำบุญด้วยการต่อชีวิตสัตว์ ให้ได้บุญมากขึ้น

การทำบุญปล่อยชีวิตสัตว์หรือต่อชีวิตสัตว์นั้น หลายคนเรียกว่า เป็นการสะเดาะเคราะห์ ซึ่งก็แล้วแต่จิตจะพาไป แต่ในความเป็นจริงก็คือ เป็นการทำบุญใหญ่ เป็นการช่วยต่อชีวิต ต่อโชคชะตา ให้เวลากับสัตว์ที่กำลังจะถึงตายให้ได้มีชีวิตอีกครั้ง และเคล็ดลับสำคัญก็คือ ก่อนที่จะปล่อยสัตว์นั้นๆ เมื่อได้ซื้อมาหรือเจอ ณ ที่ใดก็ตาม ให้นำไปถวายกับพระสงฆ์เสียก่อน เพื่อเพิ่มบุญให้มากขึ้น เหตุเพราะว่าพระสงฆ์ที่รับนั้นท่านบริสุทธิ์ และมีศีลมากกว่าเรา ท่านย่อมมีบุญมากกว่าเรา ยิ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญมากแล้ว บุญนั้นจะเพิ่มเป็นหลายเท่า จากนั้นก็ขอผาติกรรมชำระหนี้สงฆ์ซื้อคืนมาจากท่าน ด้วยเงินเท่ากับจำนวนที่เราซื้อสัตว์นั้นๆมา วิธีนี้เป็นการเพิ่มบุญอีกเท่าตัว ได้ทั้งทำบุญต่อชีวิตสัตว์ และชำระหนี้สงฆ์ด้วย หลังจากนั้นก็นำไปปล่อยในที่อันสมควร

อานิสงส์ของการทำบุญด้วยวิธีนี้ ถ้าใครที่ทำได้ตามนี้ บุญที่ได้จะเพิ่มขึ้นเป็นหลายเท่า จากการที่ไปซื้อมาแล้วก็ไปปล่อยตามยถากรรม วิธีนี้นอกจากได้บุญน้อยแล้ว แถมยังได้บาปกลับมาด้วย ดังนั้นจะทำบุญทั้งที ควรฉลาดในการทำบุญด้วย


5. การทำสังฆทานให้ได้อานิสงส์บุญมากขึ้น

การทำสังฆทานควรทำให้ครบทั้งปัจจัยสี่ มีอาหาร( คาว-หวาน-ผลไม้-น้ำ ) ,เครื่องนุ่งห่ม ( ผ้าไตรจีวร หรือ ผ้าขนหนูสีสุภาพ ) , ยารักษาโรค , ที่อยู่อาศัย ( บ้านหลังเล็กๆ ซื้อได้ตามร้านสังฆภัณฑ์ เพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยทิพย์ให้กับเจ้ากรรมนายเวร เค้าจะได้มีที่พักพิง ไม่มารบกวนเราอีก ) และควรเพิ่มหนังสือธรรมะเข้าไปด้วยเพื่อให้จิตใจของเจ้ากรรมนายเวรซึ้งในรสพระธรรม มีจิตใจที่เย็นสบายพ้นทุกข์

เคล็ดลับสำคัญ เครื่องสังฆทานและอาหารเหล่านี้ เราควรที่จะต้องไปถวายแด่พระสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญสูง แต่ถ้าหาไม่ได้หรือไม่ทราบ ให้เรานั้นตั้งจิตอธิฐานถวายแด่พระพุทธเจ้าโดยตรงและ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ หรือครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ เพื่อให้อานิสงส์ของบุญจะได้มากขึ้นทบทวี และหลังจากนั้นก็ให้อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งหมด และควรกรวดน้ำหลังทำบุญทุกครั้งเพื่อให้พระแม่ธรณีและเทพเทวาทั้งปวงท่านเป็นพยานในการทำบุญครั้งนี้

สรุป 

เมื่อท่านได้ทราบว่า ทำบุญอะไร แล้วได้รับอานิสงส์ของการทำบุญเป็นอย่างไร สมควรช่วยประชาสัมพันธ์ให้ผู้อื่นได้ทราบด้วย เพราะเป็นการให้คนได้รู้ถึงอานิสงส์ของทำบุญในแต่ละอย่าง จะได้จำสืบต่อกันไปอย่างถูกต้อง

ดังนั้น จึงสรุปว่า การทำบุญอะไรก็ตาม เมื่อได้ทำบุญแล้ว ก็ได้รับผลบุญในทันที กล่าวคือ ขณะที่ทำบุญนั้น สภาพจิตของเราตรงนั้นเป็นอย่างไร สุขใจไหม สบายใจไหม ภูมิใจไหม ตรงนี้ไม่ต้องถาม หวังว่า ท่านที่เคยทำบุญมาแล้วก็จะตอบตนเองได้อย่างแจ่มแจ้งทีเดียว

เมื่อเราได้ทำบุญ ผลของการทำบุญ จะให้อานิสงส์ไม่เหมือนกัน บุญบางอย่าง ก็ให้ผลโดยตรง แต่บุญบางอย่าง ก็ให้ผลโดยอ้อมไม่ตรงทีเดียว ในเรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่า อานิสงส์แห่งการทำบุญนั้นไม่เหมือนกัน และผลบุญที่เราได้ทำนั้น รอให้ผลอยู่ตลอดเวลาแก่ผู้ที่ได้ทำบุญไว้ ตราบเท่าที่ยังมีผลบุญอยู่ สำหรับผู้ที่ไม่ได้ทำบุญไว้ ถ้าไม่ประมาท ถึงแม้ไม่มีอะไรจะทำบุญ เพียงแต่เห็นคนอื่นเขาทำบุญ แล้วทำใจให้เลื่อมใส ก็เป็นอันได้ทำบุญเหมือนกัน บุญชนิดนี้ เรียกว่า บุญด้านปัตตานุโมทนามัย ( บุญจากการอนุโมทนาบุญ )

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://board.palungjit.org/f130/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%8D%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B8%93%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%86-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%88-572201.html

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

วิธีแก้ไขวิบากกรรมหนักฉบับเร่งด่วน


ตัวอย่างเคล็ดลับการเสริมสร้างพลังบุญเฉพาะเรื่อง

– กรณีที่มีวิบากกรรมหนัก ก็ต้องสร้างพลังบุญที่ยิ่งใหญ่ รุนแรง เพื่อทุเลาและแก้ไขวิบากกรรมนั้นด้วยอย่างทันท่วงที เช่น สร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ (ถ้ากำลังในทรัพย์ปัจจัยไม่พอ ก็ให้หาเป็นเจ้าภาพร่วม ตามสถานที่ต่างๆ ที่มีการสร้าง ) สร้างวัด โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ สถานปฏิบัติธรรม อุทิศตัวเข้าบวชในบวรพุทธศาสนา ถ้าเป็นหญิงก็ให้บวชชี (หากไม่สะดวก ก็บวชแบบชีพราหมณ์ก็ได้) ถือศีล ปฏิบัติธรรม การบวช หรือปฏิบัติธรรม ถ้าเป็นไปได้อย่างน้อย 9 วัน ขึ้นไป แล้วอุทิศไปให้เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ต้องเกิดวิบากกรรมอันหนักนั้น ถ้าทำบุญใหญ่ ๆ ได้ หลายๆอย่าง และมากๆ ในห้วงเวลาเดียวกัน ก็จะยิ่งช่วยได้มาก การแก้ไขวิบากกรรมก็จะได้ผลเร็วยิ่งขึ้น

– สุขภาพไม่แข็งแรง เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่บ่อย ๆ การปล่อยชีวิตสัตว์ ไถ่ชีวิตสัตว์ ถือว่าได้บุญ อันเนื่องมาจากการที่ได้ต่อชีวิตให้สัตว์ อานิสงส์จะทำให้มีอายุยืน สุขภาพแข็งแรง ช่วยคลายวิบากกรรมเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย เคล็ดลับให้ได้บุญมากยิ่งๆ ขึ้น ให้ไปซื้อหรือไถ่ชีวิตสัตว์ที่เขากำลังจะฆ่า เช่น ไปซื้อปลาที่เขากำลังจะฆ่าและนำเอาไปทำอาหาร และก่อนที่จะนำปลาไปปล่อย ให้นำไปถวายพระสงฆ์ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญที่ดีก่อน เมื่อท่านรับและอนุโมทนาแล้ว เราก็ขออนุญาตนำปลานั้นคืนมา เพื่อที่จะเอาไปปล่อย (เพราะเราถวายปลาไปแล้ว และปลานั้นก็ได้เป็นของพระไปแล้ว) ด้วยการถวายปัจจัยชำระหนี้ค่าปลาให้แก่พระสงฆ์ ตามจำนวนราคาที่เราซื้อมา หรือมากกว่า บุญนี้ก็จะได้มากกว่าการที่เราไปซื้อปลา และนำไปปล่อยเอง เพราะเป็นบุญที่ได้ทวีคูณเพิ่มขึ้น ตามค่าตัว หรือคุณธรรมของพระสงฆ์ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญ รวมไปถึงการถวายยารักษาโรค เป็นเจ้าภาพดูแลรักษา พระสงฆ์ที่อาพาธ (ป่วย)

– วิบากกรรมอันเกิดจากการทำแท้ง ก็เป็นวิบากกรรมหนัก ประเภทนี้ขอให้สังเกตว่ามักจะทำอะไรไม่ขึ้น เหมือนมีอะไรมาขัดขวางอยู่ตลอดเวลา บางที เหมือนทำท่าว่าจะได้ จะสำเร็จแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ ไม่สำเร็จ เรียกว่ากินแห้วพลาดเป้าไปทุกที นั่นเป็นเพราะกรรมที่เคยไปตัดโอกาสในการมีชีวิตของผู้อื่น นอกจากจะแก้ไขด้วยการสร้างพลังบุญที่ยิ่งใหญ่ รุนแรง ด้วยการปฏิบัติดังที่ได้แนะนำข้างต้นแล้ว ก็ให้เสริมด้วยการไปซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ของเด็กทารก เช่น ขวดนม นมผง ผ้าอ้อม รถเข็นเด็ก ของเล่นเด็ก ฯลฯ แล้วก็นำไปถวายให้แก่พระสงฆ์ และก็ใช้วิธีการเดียวกับเคล็ดลับการปล่อยปลาข้างต้น แล้วก็นำของเหล่านั้น ไปบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กอ่อนต่อไป

– เรียนหนังสือไม่ดี (ทั้งที่ขยันก็แล้ว)ความจำไม่ดี คิดอ่านอะไรก็ช้า ปัญญาไม่แล่น จะเล่าเรียนเขียนอ่านอะไร ก็มีปัญหามีอุปสรรคไปหมด เป็นวิบากกรรมที่เกิดจากการไปขัดขวางไม่ให้คนได้มีความรู้ เคยไปบั่นทอนสติ และปัญญาของผู้อื่นด้วยประการต่างๆ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องสนับสนุนในการกระทำนั้น เช่น ผลิต จำหน่ายสุรา เครื่องดองของมึนเมา ยาเสพติด ทั้งหลายทำให้คนหลงใหลในอบายมุข ชี้นำสั่งสอนในสิ่งที่ผิดไม่ถูกต้องตามธรรมให้ผู้คน ได้ปรามาสหรือ ดูหมิ่นดูแคลนผู้มีความรู้ ผู้ทรงศีลทรงธรรม การทุเลาและแก้วิบากกรรมในกรณีนี้ ให้ไหว้พระสวดมนต์ ขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ ผู้มีความรู้ทั้งหลายที่เราได้เคยละเมิด ล่วงเกินมา มากๆ บ่อยๆ ต้องปฏิบัติธรรม สร้างธรรมทานด้วยการแจกหนังสือธรรมะ สื่อธรรมะของครูบาอาจารย์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ หนังสือสวดมนต์ (กรณีหนังสือธรรมะต้องมั่นใจว่า เป็นธรรมะที่ถูกต้องด้วย ถ้าไม่แน่ใจต้องให้ครูบาอาจารย์ที่ท่านเป็นผู้รู้จริงพิจารณาก่อน) ถวายสื่อการเรียนการสอนธรรมะ ถวายหนังสือพระไตรปิฎก เป็นเจ้าภาพ หรือร่วมสนับสนุน อุปถัมภ์ค้ำจุนเรื่องการประพฤติปฏิบัติธรรม การศึกษาเล่าเรียน เช่น ให้ทุนจัดฝึกอบรมการปฏิบัติธรรม สร้างวัด สถานปฏิบัติธรรม ให้ทุนการศึกษา พระสงฆ์ เณร นักเรียน นักศึกษาที่ดีมีศีลมีธรรม


ข้อควรปฏิบัติในการดำรงชีวิตในแต่ละวันเพื่อเพิ่มพลังบุญ
1. ตั้งใจรักษาศีล ด้วยการสมาทานศีล 5หรือศีล 8
2. สวดมนต์ด้วยบทสวดต่างๆ อย่างน้อยที่สุดให้ได้ 1 บทสวด วันละครั้งก่อนนอน โดยเฉพาะบทสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ (อิติปิโส ฯ…)
3. นั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ 15 นาที (หรือเดินจงกรมก็ได้)
4. แผ่เมตตา อุทิศบุญ ให้แก่เทพเทวดา เจ้ากรรมนายเวร บุคคลที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ
5. อธิษฐานขอให้ผลบุญนี้ ไปเป็นพลังเพื่อความสำเร็จต่าง ๆ ดังที่เราปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นทางโลก หรือทางธรรม หรือทั้งทางโลกและทางธรรม
6. ทำทาน ให้ได้ในแต่ละวัน ทุก ๆ วัน ตามกำลัง เช่น ใส่บาตร ถวายสังฆทาน หรืออื่น ๆ ตามความเหมาะสม หากไม่สะดวก ไม่มีโอกาสที่จะทำได้ทุกวัน ก็ให้นึกถึงเรื่องการให้ทานไว้ทุกวัน โดยตั้งจิตเจตนาไว้อยู่เสมอว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้วจะไปทำทาน เช่น สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทุก ๆ วันอาทิตย์ ควรตั้งสัจจะไว้ ไม่ควรคิดว่า เอาไว้เมื่อมีความพร้อม มีเวลา มีโอกาสแล้วจึงจะไปทำ เพราะถ้าคิดอย่างนั้นแล้ว ส่วนมากจะหาโอกาสได้ยาก กิเลสมักหาข้ออ้างได้เสมอ
7. การอธิษฐานต่าง ๆ ให้ตั้งจิตมุ่งมั่นแน่วแน่ ปักลงไปในเป้าหมายอย่างแท้จริง ให้มั่นใจในพลังบุญของเรา มองเห็นภาพความสำเร็จเกิดขึ้นอย่างชัดเจนแน่นอน ไม่ลังเลสงสัย (ให้คิดบวกเสมอ) เมื่อผลสำเร็จยังไม่เกิดขึ้น อย่าเพิ่งท้อแท้ นั่นเป็นเพราะองค์ประกอบของเหตุปัจจัยที่ทำลงไปยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ และในแต่ละคนก็มีไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน ให้ปฏิบัติต่อเนื่องต่อไป ช้าเร็วอย่างไรก็ต้องสำเร็จแน่นอน ยังไงก็ต้องได้เห็น บางทีความสำเร็จอาจมาโดยคาดไม่ถึงเสียด้วยซ้ำไป และเมื่อสำเร็จแล้ว ก็ให้ทำต่อไป จะเป็นการเพิ่มพลังบุญของเราไปเรื่อยๆ หากยังต้องเวียน ว่าย ตายเกิด อยู่ในวัฏสังสารนี้ พลังบุญที่เราสะสมไว้นี้ ก็จะเป็นทุนรอนในภพชาติหน้าต่อไป


วิธีการเชื่อมบุญ และเคล็ดลับสำคัญ *
หลังจากที่เราได้ทำบุญ บุญก็เกิดขึ้น และเมื่อบุญเกิดขึ้นแล้ว เรายังสามารถน้อมเอาผลบุญนั้น มาอุทิศให้แก่ผู้อื่น เพื่อให้ผู้อื่นนั้นมีความสุขด้วย อีกทั้งยังเป็นการชดใช้หนี้เวร หนี้กรรม เศษเวร เศษกรรม ทั้งหลาย ที่เกิดจากบาปเวรอกุศลกรรมที่เราเคยสร้างไว้ เป็นผลให้เราได้รับวิบากกรรมชั่วต่าง ๆ นา ๆ (ที่เรามักเรียกว่ากันว่าเจ้ากรรมนายเวรนั่นเอง)

ต่อจากนั้นเราก็ตั้งจิตกล่าวอุทิศผลบุญทั้งหลายนี้ ให้กับบุคคลทั้งหลายที่เราปรารถนาจะอุทิศให้ แล้วจึงอธิษฐาน เพื่อให้บุญนั้นเกิดเป็นความสำเร็จในกิจการงานต่าง ๆ ตามที่เราได้ปรารถนา หรือตั้งเป้าหมายไว้ ส่วนการที่เราจะอุทิศบุญให้แก่ใคร บุคคลใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะไปเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับบุคคลต่าง ๆ เหล่านั้น ในแง่ใด สถานการณ์ใด (รวมทั้งที่อยู่ในภพภูมิอื่น ๆ) แล้วจึงอุทิศเจาะจงไปให้ (การอุทิศบุญต้องเจาะจง)

ดังนั้น การเชื่อมบุญ และการพึ่งบุญ ก็เป็นการอุทิศบุญเจาะจงไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์สุขและความสำเร็จ ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายๆ สิ่งที่พึงปรารถนา หรือตั้งเป้าหมายไว้นั่นเอง
*** (ควรทำให้ได้ทุกวัน ในแต่ละวันที่ได้ทำบุญไป และควรทำบุญให้ครบส่วน ทั้งในส่วนของ ทาน ศีล ภาวนา กรณีไม่มีโอกาสได้ทำทานทุกวัน หรือคิดว่ายังไม่พร้อมเพียงพอในเรื่องทรัพย์ปัจจัยที่จะนำไปใช้ในการทำบุญ ก็ให้ตั้งเจตนาไว้ก่อน โดยหมั่นสะสมทรัพย์ไว้ ใช้วิธีหยอดเงินใส่กระปุกออมสินรวบรวมไว้ก็ได้ แล้วจึงนำไปทำทาน ถวายทาน ในแต่ละสัปดาห์ หรือตามโอกาส ควรทำบ่อยๆ และต่อเนื่อง จะทำให้จิตระลึกถึงบุญกุศลอยู่เสมอ และก่อให้เกิดผลสำเร็จตามที่ได้อธิษฐานไว้)


ขั้นตอนการอธิษฐาน และอุทิศบุญ *
ให้ทำเบื้องหน้าพระพุทธรูป (โต๊ะหมู่บูชา หิ้งพระ ถ้าในที่พักไม่มี ก็ให้อยู่ให้ในสถานที่อันควร เป็นที่สงบ แล้วน้อมระลึกถึงพระคุณความดี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ผู้มีอุปการะคุณทั้งหลาย ) โดยก่อนอธิษฐาน ให้ไหว้พระสวดมนต์ก่อน และทำตามลำดับ ดังนี้
1. กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย (อะระหัง สัมมาฯ)
2. สวดพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ (อิติปิโสฯ)
3. รับไตรสรณคมณ์ (พุทธัง สะระณัง คัจฉามิฯ)
4. สมาทานศีล
5. กล่าวคำอธิษฐาน และอุทิศบุญ (ตามตัวอย่าง)
6. กรวดน้ำ อุทิศบุญกุศล (ตอนที่เอาน้ำไปเท ให้เทลงที่พื้นดิน และก่อนเทน้ำ ให้ตั้งจิตบอกแม่พระธรณีว่า “ ขอแม่พระธรณีทรงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญบุญกุศลของลูกนี้ด้วยเถิด ” ก็เป็นอันเรียบร้อย เสร็จพิธี

หมายเหตุ โดยปกติทั่วไป เรามักทำบุญโดยนิยมถวายสังฆทานกัน เพราะหาโอกาสทำได้ง่าย และได้อานิสงส์มาก แต่ในกรณีที่เราไม่ได้ถวายสังฆทาน ก็สามารถประยุกต์ใช้คำอธิษฐานนี้ ในการทำบุญ ทำทานประเภทอื่น ๆ ชนิดอื่นๆ ในแต่ละครั้งได้ โดยปรับให้เหมาะสมตามสถานการณ์ แล้วน้อมนำผลบุญที่ได้กระทำไปแล้วนี้ อุทิศไปให้แก่บุคคลที่เราปรารถนาจะอุทิศให้ สำหรับการกรวดน้ำ ถ้าไม่มีอุปกรณ์(คนโทกรวดน้ำ) ก็ให้ใช้ขวดเล็ก ๆ ใส่น้ำ แล้วเทรินใส่แก้วก็ได้ เสร็จแล้วก็เอาน้ำไปเทที่พื้นดิน และเมื่อทำบุญเสร็จแล้ว หากไม่มีโอกาสได้กรวดน้ำในตอนนั้น ณ สถานที่นั้น ก็ให้กลับมากรวดน้ำที่บ้านหรือที่พักก็ได้ และควรทำภายในวันนั้น การอธิษฐานและอุทิศบุญควรทำทุกวันที่ได้ถวายทาน หรือทุกวันที่ได้สร้างบุญกุศลให้เกิดขึ้น

ที่มา : หากเจอวิบากกรรมหนักต้องเร่งสร้างพลังบุญอย่างไร ของ ธ. ธรรมรักษ์

วันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2559

การทำบุญเร่งลาภให้เร็วขึ้น...เสริมโชคให้ดียิ่งขึ้น


คำว่าโชคลาภ ใครๆก็อยากได้ หรือ การมีทรัพย์สินที่มากขึ้น ทุกคนต่างอยากได้ทั้งสิ้น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ เพราะขึ้นกับบุญกุศลที่เคยทำไว้ของแต่ละคน ว่าได้ส่งผลในขณะนี้หรือไม่

วิธีที่ผมกำลังเสนอต่อไปนี้เป็นอีกวิธีหนึ่งซึ่งจะช่วยเสริมความลาภและการเงินของคุณ โดยมีวิธีปฏิบัติดังนี้

" บริจาคเงินทำบุญถวายเป็นค่าภัตตาหาร หรือยา หรือ นำภัตตาหารไปถวายพระสงฆ์ที่อาพาธ ณ โรงพยาบาล ทุกวันเกิด ติดต่อกันให้ครบ 7 ครั้งอย่าขาด เช่น เกิดวันจันทร์ ก็ไปทำวันจันทร์ ห้ามขาด เกิดวันพุธก็ไปทำวันพุธห้ามขาด ถ้าขาดสัปดาห์ใดสัปดาห์หนึ่ง ให้นับ 1 ใหม่ 7 ครั้งต่อเนื่อง และ ครั้งที่ 7 ให้เตรียมเงินใส่ซองสำหรับถวายพระสงฆ์อย่างน้อย 3 ซอง ซองที่ 1 ถวายพระสงฆ์องค์แรก ซองที่ 2 และ 3 ถวายพระองค์ที่ 2 โดย ซองหนึ่งถวายเป็นปัจจัยส่วนตัว อีกซองหนึ่งฝากท่านทำบุญค่าน้ำค่าไฟวัดที่ท่านอยู่ เรียกว่า ฝากผู้ทรงศีลทำบุญ ถือว่าได้บุญมากกว่าปกติ หากมีพระสงฆ์องค์อื่นอยู่อีกจะถวายด้วยหรือไม่ก็ได้แล้วแต่ศรัทธา "

สำหรับท่านใดที่ไม่สะดวกในการทำบุญกับพระสงฆ์อาพาธ ก็โอนเข้าบัญชีของ โรงพยาบาลสงฆ์ ถนนศรีอยุธยา ได้ตามนี้

ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาถนนศรีอยุธยา
บัญชี ฝากออมทรัพย์ เลขที่ 013-1-85026-1
ชื่อบัญชี เงินบริจาคบำรุงโรงพยาบาลสงฆ์


เว็บไซท์ : http://www.priest-hospital.go.th/web/index.php

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เคล็ดลับการไหว้เจ้าที่ให้ถูกต้องเพื่อลดอุปสรรคและเสริมโชคลาภ

เคล็ดลับที่ว่านี้มาจาก พระครูวิสารสรจักษ์ หรือ หลวงปู่เงิน กตสาโร วัดเกาะแก้ว ผู้ประสาทเคล็ดนี้ให้แก่ท่านที่ประสพปัญหา ชีวิตไม่ราบรื่น มีอุปสรรค หรือว่าคนในบ้านเจ็บป่วยบ่อย หรือประสบอุบัติเหตุ บ่อยๆ นั้น อาจเป็นเพราะเราอาจจะไมได้ตั้งใจไปทำสิ่งใดที่อาจจะไม่ถูกใจเจ้าที่หรือผี บ้านผีเรือน หรือบางทีเราไม่ทราบว่าบ้านเรานั้นก่อนจะมาเป็นของเรามีสิ่งใดหรือมีอะไร อัปมงคลมาก่อน วิธีแก้ร้ายให้กลับคืนเป็นดี

ในตอนเช้าให้เตรียมการไหว้พระภูมิเจ้าที่ ศาลตายายในบ้านแบบง่ายๆคือ ดังนี้

1.ส้ม 4 ผล เป็นมงคล(ห้ามส้มโอ หรือส้มโอมือ)
2.ข้าวปลาอาหารที่ปรุงแล้วตามอัธยาศัย
3.ขนม หวานจะเป็นจับกิมทึ้งแบบจีน หรือ ขนมหวานแบบไทย จำพวกทองต่างๆๆก็ได้ และต้องมีขนมน้ำดอกไม้ด้วย(หลวงปู่บอกว่าเป็นเคล็ดในการขอขมาแบบว่าในปีๆๆ หนึ่งเราอาจเคยล่วงเกินเจ้าที่เจ้าทางขนมน้ำดอกไม้เป็นเครื่องแสดงการขอขมา)
4.พวงมาลัย จะเป็นดาวเรือง หรือเจ็ดสีเจ็ดศอกก็ได้ตามฐานานุรูป
5.ธูป


เสริมดวงด้วยการไหว้เจ้าที่



โดยการนำเครื่องไหว้ไปวางหน้าศาล พระภูมิ ศาลตายายแล้วจุดธูป สวดพระมนต์ขอขมาดังนี้


*** ตั้งนโม 3 จบ ***

"อิติสุคโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง"

จุดธูปบอกเจ้าที่อธิษฐานว่าวันนี้ลูกจะทำความสะอาดบ้าน สิ่งใดที่ลูกเคยล่วงเกินพระภูมิเจ้าที่ คุณตาคุณยายก็ขอโทษ สิ่งใดไม่ดีก็ขอให้ไปกับสิ่งสกปรกที่จะทำความสะอาดวันนี้ด้วยเถิด

แล้วอธิษฐานขอพรตามปรารถนาจากนั้นปักธูป เสร็จแล้วพอธูปหมดดอกจึงเริ่มทำความสะอาดบ้าน

โดยให้ทำตามเคล็ดเป็นลำดับดังนี้คือ

ให้ทำความสะอาด ฝาบ้าน เพดาน ตามซอกตามมุม แล้ว เอาฝุ่นละอองมารวมกองไว้ที่เดียว แล้วห่อด้วยผ้าขาวให้มิดชิด นำห่อผ้าขาว ไปทิ้งที่บริเวณถังขยะในวัดใดวัดหนึ่ง ทิ้งแล้วห้ามเหลียวหลังดูเป็นอันขาด เป็นการเหมือนกับเอาสิ่งอัปมงคลออกไปจากบ้าน

ฉะนั้นห้ามหันไปดูเป็นอันขาดจาก นั้นให้เอาน้ำพระพุทธมนต์หน้าพระประธานในบ้าน(ถ้ามี) หรือไปขอน้ำพระพุทธมนต์ตามวัดที่ดังๆ เช่น วัดสุทัศน์ วัดสระเกส วัดอินทรวิหารเป็นต้น หรือ ขอมาจากพระสงฆ์ ที่เรานับถือพรมตามเพดาน ฝาบ้าน และบริเวณบ้านให้ทั่ว ระหว่างพรมให้ตั้งจิตคิดแต่สิ่งดีดีที่เป็นมงคล ห้ามทุกคนในบ้านด่าหรือพูดคำอัปมงคลใส่กัน

เสร็จแล้วในรุ่งเช้าของอีก วันให้ตักบาตร หรือทำสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลให้แก่พระภูมิเจ้าที่ เจ้าทางผีบ้านผีเรือน โดยเฉพาะ เพื่อเป็นเคล็ดให้ท่านเฝ้าปกป้องคุ้มภัยให้เราครับหมายเหตุ หลวงปู่เงิน กตสาโร ท่านว่าการไหว้พระภูมิเจ้าที่แบบนี้อธิษฐานสิ่งใดภูมิเทวดาท่านจะอนุเคราะห์ สุดความสามารถและ เจ้ากรรมนานเวรได้ยินจะยอมอโหสิกรรมให้ จึงทำแล้วดีทางเมตตาและคุ้มครองภัยในบ้านจะหมดทุกข์หมดโศก โรคภัยไข้เจ็บจะหาย ครอบครัวเป็นสุข เทวดาคุ้มครอง...



ที่มา : เคล็ดทำความสะอาดบ้านเพื่อชีวิตมีสุข(ตำรับหลวงปู่เงิน กตสาโร)

วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

วิธีดึงดูดความร่ำรวย

มิถุนายน 29, 2013 โดย ธ. ธรรมรักษ์

เตรียมตัวร่ำรวยตลอดกาล

ก่อนที่จะพาไปรู้จักเคล็ดบูชาสำคัญ  ที่จะทำให้คุณทุกคนนั้นร่ำรวยได้ จะขอพูดถึงเรื่องสำคัญที่สุดเป็นเรื่องแรก ที่บอกว่าสำคัญที่สุดนั้นหมายความว่า ถ้าคุณไม่ผ่านเรื่องนี้หรือด่านนี้ไปก่อน
วิธีดึงดูดความร่ำรวย

 " บอกได้เลยว่า รวยยากครับ! "


วิธีที่จะดึงดูดความร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมาหาตัวเรานั้น สิ่งที่สำคัญเราต้องเตรียมตัวเองให้มีคุณสมบัติดีพร้อมที่จะรับเสียก่อน เราถึงจะรับความร่ำรวยนั้นได้

จะเปรียบเทียบให้ฟังง่ายๆ ก็เหมือน ตัวเรานั้นเป็นเครื่องรับโทรทัศน์ การรับคลื่นสัญญาณจากสถานีโทรทัศน์ได้ เราต้องปรับคลื่นความถี่ให้ตรงกันเสียก่อนถึงจะรับคลื่นนั้นได้

หากตัวเรานั้นมีกำลังคลื่นต่ำ หรือมีกำลังน้อย เราก็ไม่สามารถรับคลื่นเปลี่ยนมาเป็นภาพได้ แบบรับคลื่นได้แต่นำเอามาใช้ไม่ได้ รับเอามาใช้ได้แบบน้อยมากๆ ภาพที่ออกมามันจึงเบลอดูไม่รู้เรื่อง แบบมีคลื่นอื่นรบกวน

ก็เหมือนกับการที่เราจะปลูกบ้านสักหลัง สิ่งที่สำคัญคือ พื้นดินและฐานรากที่มั่นคง ที่มีการเตรียมการณ์อย่างรอบคอบและสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ในบางคนรู้แต่ทำไม่ได้ เหมือนกับพลังแห่งความร่ำรวย ความโชคดี ความสุขที่ไหลเวียนอยู่รอบตัวเรา อยู่ใกล้ชิดแค่ปลายจมูกเราแท้ๆ แต่เราก็หยิบมาสู่ตนเองไม่ได้ เพราะเราไม่มีคุณสมบัติที่ดีพอ

ครูบาอาจารย์ตั้งแต่ในอดีต ท่านรู้เรื่องนี้ดี จึงได้สั่งสอนเอาไว้ วิธีที่จะเตรียมตัวเองให้มีคุณสมบัติที่จะรับความร่ำรวยได้แบบตลอดกาลมีวิธีการดังนี้


1.สร้างบุญใหม่ให้พอ

เชื่อว่าเราคงเคยได้ยิน คำว่า คนบุญน้อย คนไม่มีบุญ ถึงไม่ร่ำรวยเหมือนคนอื่นเสียที เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงแน่นอนตามกฎแห่งกรรม ก็ในเมื่อไม่เคยทำกรรมดีสะสมบุญมา แล้วจะเอาบุญที่ไหนมาทำให้ชีวิตมีความสุขได้ จะเอาบุญจากไหนมาทำให้ร่ำรวยได้ หรือเอาบุญมาช่วยแก้วิบากกรรมที่กำลังเผชิญอยู่ได้ให้คลายตัวลงไป

ทุกอย่างในโลกนี้นั้นเป็นเหตุและเป็นผลกันเสมอ เมื่อเราหว่านสิ่งใดลงไป เราก็ต้องได้รับสิ่งนั้น ปลูกอ้อยก็ต้องได้อ้อย จะออกมาเป็นกล้วยนั้นเป็นไปไม่ได้ คนที่ไม่เคยทำทาน ไม่เคยทำบุญไม่เคยที่จะช่วยเหลือคนอื่น ไม่เคยมีเมตตา กรุณา แล้วจะเอาอะไรมาทำให้รวยได้ มันไม่มีทางเลย

บุญ คือ ต้นกำเนิดของความสุข ความเจริญ

คนทำบุญมามากนั้น จะมีกระแสบุญที่ทำอยู่นั้น จะหมุนเวียนอยู่รอบตัวรอส่งผลให้แก่ผุ้กระทำความดีนั้น อานิสงส์บุญนั้นไม่ได้หายไปไหนไม่ว่าจะทำมาตั้งแต่เมื่อใด เมื่อ 2 ปี ก่อน 10 ปี 30 ปีก่อน บุญยังอยู่ครบถ้วนทั้งสิ้น แต่จะออกผลออกดอกเมื่อใดนั้น อยู่ที่กรรมกำหนดด้วย

เราคงเคยได้ยินเรื่องคนจนที่ถูกหวยรางวัลใหญ่ ที่มีชีวิตที่ยากจนแสนจนแต่ทำไมถึงถูกรางวัลที่หนึ่ง เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะเขาต้องเคยสร้างบุญใหญ่มาก่อนในอดีตชาติแน่นอน แต่ที่เขาเกิดมายากจน ก็เป็นเพราะนอกจากบุญที่เขามีแล้ว เขายังเคยสร้างกรรมที่ไม่ดีหรือความชั่วไว้ด้วย

พอมาในชาตินี้ เมื่อกรรมเก่าได้รับการชดใช้จนลดขนาดลงในการส่งผลในชีวิต ก็เป็นคราวของบุญที่ออกมาแสดงผล ประจวบกับในชาตินี้เขาเพียรสร้างกรรมดีเป็นบุญใหม่ เมื่อบุญเก่ากับบุญใหม่มารวมกัน ก็ได้เรื่อง ผลก็คือ รวยกันเละเทะครับ

แต่ในบางคนการถูกหวยนั้นนำมาด้วยความทุกข์ ต้องหลบต้องซ่อนเพราะมีคนตามมาขอเงินกันวุ่นวาย เรียกว่าเป็น ทุกขลาภ เป็นบุญที่มีวิบากกรมไม่ดีมาส่งผล พร้อมๆ กัน มีกำลังเท่าๆ กัน แต่มีหลายคนที่ถูกหวยแล้วสบายไม่มีใครมาขอแบ่งเงินที่ได้มา เพราะเขามีบุญมากกว่าวิบากกรรมไม่ดี

คนที่จะรวยได้ จำไว้เลยว่าต้องมีทั้งบุญเก่าและบุญใหม่ในชาติ มารวมกัน เหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปที่เกิดมายากจนแสนจนในตอนต้น แต่ไม่ยอมจำนนต่อกรรมเก่าคนแบบนี้มีพื้นฐานที่จะรวยได้ในเวลาอันใกล้

เพราะถึงจะรู้ว่ามีกรรมเก่ามาเล่นงาน แต่ก็ไม่ยอมงอมืองอเท้า รอกรรมเก่ามาเล่นงานฝ่ายเดียว เร่งเพียรสร้างบุญ สร้างความดีอย่างต่อเนื่อง บุญกุศลที่ทำไม่ได้หายไปไหนรอส่งผลอยู่เมื่อ กรรมเก่าคลายลง บุญที่เคยทำมาก็ออกดอกออกผล บั้นปลายเขาถึงร่ำรวยได้ จับอะไรเป็นเงินเป็นทองไปหมด คนพวกนี้ในทางพระเขาเรียกว่า มามืดไปสว่าง

เพื่อความไม่ประมาทนั้น ครูบาอาจารย์ท่านจะพยายามสอนให้คนเร่งสร้างบุญของตัวเองให้มากพอ ด้วยการให้ทาน การถือศีล และการเจริญภาวนา

การให้ทานนั้นมีอานิสงส์บุญน้อยกว่าการถือศีล และการถือศีลนั้นได้บุญน้อยกว่าการเจริญภาวนา ในศาสนาพุทธที่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นองค์พระศาสดานั้น ได้ทรงสั่งสอนสัตว์โลกไว้ว่า ในการสร้างบุญที่ถูกวิธีนั้น รวมเรียกว่า “ บุญกิริยาวัตถุ 10” ขออธิบายให้เข้าใจง่ายๆ  สั้นๆ ว่าใน 10 ข้อนั้นมีอะไรบ้าง

1.ด้วยการบริจาคทาน
2.ด้วยการรักษาศีล
3.ด้วยการภาวนา
4.ด้วยการอ่อนน้อมถ่อมตน
5.ด้วยการช่วยขวนขวายทำในกิจที่ชอบ
6.ด้วยการเฉลี่ยส่วนความดีให้ผู้อื่น
7.ด้วยความยินดีความดีของผู้อื่น
8.ด้วยการฟังธรรม
9.ด้วยการสั่งสอนธรรม
10. ด้วยการทำความเห็นให้ตรง

ทั้ง 10 ช่องทางนี้เป็นช่องทางแห่งบุญทั้งสิ้น ซึ่งมีโอกาสจะทำได้อยู่ตลอดเวลา มีเพียงข้อแรกข้อเดียวที่ต้องใช้เงินเพราะเป็นการบริจาคทาน เป็นการใช้วัตถุทาน ที่เหลืออีก 9 ข้อนั้นไม่ต้องใช้เงินแม้แต่บาทเดียว

อยากจะขอแนะนำไว้สักนิดว่า ถ้าอยากจะรวยเร็วๆ ทำตัวเองให้มีบุญมากพอเสียก่อน เหมือนเปิดประตูชีวิตให้กว้างที่สุด เพื่อรองรับเงินทอง ความสุขในชีวิตที่จะไหลเข้ามาแบบไม่หยุดยั้ง

อยากรวยต้องเร่งทำบุญก่อนครับ ไม่มีเงินไม่ต้องกลัว พยายามทำตั้งแต่ข้อ 2-9 ให้ได้ รับรองว่าเตรียมตัวรวยกันได้เลยและยิ่งมีการให้วัตถุทานด้วยแล้วก็จะเร็วขึ้น

เพราะการให้นั้นเป็นหัวใจสำคัญแห่งความรวยจริงๆ  คนที่รู้จักการให้ ยิ่งให้จะยิ่งได้รับตอบแทน เป็นกฎแห่งกรรมและกฎแห่งธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ เคล็ดลับที่สำคัญในการให้ทานนั้น มีอยู่แค่ 3 ประการที่ทุกคนทำได้ง่ายดายมาก คือ


วัตถุทานนั้นบริสุทธิ์ หมายถึง วัตถุหรือเงินที่ซื้อวัตถุทานนั้น เป็นเงินที่มาจากการทำงานที่สุจริต ไม่ไปเบียดเบียน กรรโชก คดโกงใครมา ยิ่งมาจากน้ำพักน้ำแรง จากความยากลำบากยิ่งจะมีอานิสงส์มากเพราะเจตนานั้นสูงมาก

วัตถุทานนั้นไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากที่จะได้บุญมากเสมอไป ขอให้เงินบริสุทธิ์ ที่มาของวัตถุทานนั้นบริสุทธิ์ แม้เพียงสลึงเดียวก็ได้บุญมากกว่าเงิน 10 ล้านของนักการเมืองที่โกงประเทศชาติมาหรือพ่อค้าที่โกงคนอื่นมา

สำหรับการให้วัตถุทานนั้น มี 3 ประเภทและมีอานิสงส์แตกต่างกันที่เราควรรู้ไว้ เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องนี้ แบ่งออกเป็น


ทาสทาน หมายความว่า การให้ของที่เลวกว่าที่เรากิน หรือของที่เลวกว่าที่เราใช้
สหายทาน หมายความว่า การให้ของเสมอที่เรากินอยู่ หรือที่เราใช้อยู่
สามีทาน หมายความว่า การให้ของที่ดีกว่าที่เรากินที่เราใช้อยู่

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในเรื่องของทาสทาน การทำทานหรือให้ของที่เลวกว่าที่เรากิน หรือเราไม่ใช้แล้ว  ถึงจะมีอานิสงส์แต่ก็อยู่ในความลำบาก ในสมัยพุทธกาล ท่านอาฬวีเศรษฐี เป็นมหาเศรษฐีมีทรัพย์ แปดสิบโกฏิ ถ้าเทียบในสมัยก็ประมาณเจ้าสัวใหญ่

พระราชาจึงตั้งเป็นมหาเศรษฐี ที่แปลว่า ใหญ่กว่าเศรษฐีทั้งปวง ทั้งนี้เป็นเพราะในอดีตชาติได้ทำทานไว้มาก แต่น่าเสียดายที่ทานที่แกทำมาตลอดนั้นเป็นของเลว เป็นของที่คัดออกมาแล้วว่าแม้แต่ตัวเองก็ไม่อยากใช้ แกเอาไปทำทาน

ดังนั้นในชาติต่อมา อานิสงส์ของการทำทานนั้น ส่งผลทำให้เป็นมหาเศรษฐีมีเงินทองมากมายก็จริง แต่ว่าขอโทษที ข้าวที่จะกินเม็ดสวยๆ ก็กินไม่ได้ ต้องกินข้าวหักหรือปลายข้าวจึงจะกินได้ กับข้าวต้องกินแต่ของที่เน่าเสียแล้ว หรือคนแทบกินไม่ได้

ของทุกอย่างที่แกใช้ทุกอย่างต้องเป็นของเลว ผ้าที่นุ่งก็ต้องนุ่งผ้าเก่า ใช้ผ้าใหม่ไม่ได้เลยเพราะมันคันไปหมดนอนไม่ได้ มีความเป็นอยู่ที่ลำบากมากถึงแม้จะมีเงินทองมากมาย

ในบ้านเรา ก็มีเศรษฐีที่ทำทานแต่ของเลวมากมาย ถ้าเราสังเกตดูดีๆ เมื่อไม่นานมานี้ ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งเล่าให้ฟังว่า มีคนรวยคนหนึ่ง มีเงินนับเป็นร้อยๆ ล้าน แต่ชีวิตของแกนั้นเหมือนกับท่านอาฬวีเศรษฐีทุกประการ

มีเงินทองมากมายแต่เป็นคนที่ตระหนี่ถี่เหนียวมากๆ  ในเกือบทุกวัน คนรวยคนนี้ต้องกินข้าวต้มเม็ดเละๆ จากปลายข้าวที่เหลือจากการขายในร้าน เอามาต้มกินกับก้อนกรวดแช่เกลือ กินอยู่อย่างนี้ ไม่ใช่ไม่มีเงินนะ แต่ไม่ซื้อกิน เพราะใจมันมัวแต่คิดตะหนี่ขี้เหนียว ใจมันเสียดายอยู่ตลอดเวลา ทำให้แกเป็นโรคร้าย เพราะชั่วชีวิตนี้ไม่เคยกินอาหารดีๆ กับเขาเลย

เวลาแกเจ็บป่วยไปนอนโรงพยาบาล ลูกก็อยากให้พ่อได้กินผลไม้ดีๆ ไปซื้อมังคุดกิโลละ 30 บาทมาให้กิน คนรวยคนนี้แม้จะนอนเจ็บพูดแทบไม่ได้ แต่พอแกพอเห็นมังคุดที่ลูกเดินถือเข้ามาเท่านั้น

แกโกรธลูกมาก เหมือนลูกไปทำความผิดอะไรมาใหญ่โต แกด่าเสียเละเทะเลยว่า ไปซื้อมาทำไม เปลืองเงิน ด่าลูกจนลูกร้องไห้ แกด่าว่าโง่เหมือนควายใช้เงินไม่เป็นทั้งๆ ที่ลูกนั้นตั้งใจดีเห็นพ่อป่วย อยากจะซื้อผลไม้ดีๆ มาปอกให้พ่อได้กินชื่นใจ

คนรวยแบบนี้มีเงินมากก็จริง แต่ทั้งชีวิตไม่ได้รับสิ่งดีๆ เลย มีเงินเหมือนมีเศษกระดาษ มีทองเหมือนเป็นก้อนหิน เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะทาสทาน คือ แกเคยทำทานด้วยของไม่ดีมาก่อนนั่นเอง

ดังนั้นจะขอแนะนำว่าเวลาที่จะทานควรพิจารณาในเรื่องนี้ด้วยว่า เราให้ของที่ดีที่สุด ประณีตเท่าที่จะทำได้ในเวลานั้นหรือไม่

ผู้ให้บริสุทธิ์ หมายถึง คนที่ให้มีเจตนาบริสุทธิ์ทั้งก่อนให้ ขณะให้และหลังการให้ ไม่คิดหวังผลตอบแทน ประเภททำบุญสิบบาทหวังถูกหวย 10 ล้าน ก็จะยากสักหน่อย เพราะหวังผลตอบแทน กิเลสตรงนั้นที่เกิดขึ้นจะเป็นลดทอนบุญที่ควรจะได้ลงไป เป็นอุปสรรคมาขวางทางบุญไว้

ที่บอกว่าเวลาที่ทำบุญแล้วควรทำใจให้สบาย ทั้งก่อนให้ทานนั้น หมายความว่า เรามีความตั้งใจที่จะทำบุญ เพื่อเผื่อแผ่ผู้อื่นให้มีความสุข เพื่อเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรือง เป็นหลักชัยในการสั่งสอนคนให้ดี

กำลังให้ทานนั้น ใจของเราต้องไม่คิดอะไรไปวุ่นวาย บางคนกำลังให้ทาน จะชอบคิดสงสัยหรือวิตกว่า ของที่เรากำลังให้นั้นสมควรที่ผู้รับจะได้ไปหรือไม่ คิดว่าเขาจะเอาไปทำอะไร คิดมากจนจิตมันส่าย แทนที่จะนิ่งเพื่อให้ทานนั้นสำเร็จ เกิดบุญ กลับกลายเป็นว่าไปลดทอนกำลังบุญเสีย

และหลังการให้ทาน ไม่ควรเสียดาย หรือมีใจคิดฟุ้งซ่านไปอีก ประเภท ของที่เราให้ไปเมื่อตะกี้จะถึงวัด เขารับไปแล้วจะถึงวัตถุประสงค์ของเราหรือไม่ อย่าไปคิดแบบนั้น เมื่อให้ไปแล้วก็จบกันไป ถือว่าให้ขาดไปเลย

การอธิษฐานหลังทำบุญนั้นก็สำคัญ ควรที่จะอธิษฐานไปในทางดี เพื่อให้เรามีความสุข ความขัดข้องอุปสรรคต่างๆ  ความไม่มี ความขัดสน อย่าเกิดในชีวิตก็พอ อย่าไปอธิษฐานแบบมีข้อแม้แบบขอไปด้วยในตัว

ประเภทว่า ขอให้บุญนี้ส่งผลให้ถูกหวย ส่งผลให้สอบได้ ส่งผลให้ขายนั่นขายนี่ได้ เจาะจงลงไปอย่างนั้นอย่างโน่น ตกลงเรามาทำบุญเพื่อละกิเลส สร้างกำลังใจที่จะเพียรทำความดี หรือมาทำบุญเพื่อการลงทุนกันเพื่ออะไรกันแน่

ขอแนะนำว่า ขอให้เพียรทำความดี ให้ทานโดยไม่หยุดยั้งเท่าที่เราจะทำได้  เมื่อถึงเวลาบุญจะทำหน้าที่ตามเหตุและปัจจัย บุญนั้นจะส่งผลให้เราอัศจรรย์ใจแน่นอน มีตัวอย่างมามากมาย


ผู้รับนั้นบริสุทธิ์ คือ ผู้รับนั้นยิ่งมีศีล เป็นคนดี บริสุทธิ์ มีความชอบธรรมมากเท่าใด บุญที่เราให้ก็จะเกิดผลมากขึ้นเท่านั้น ผู้รับที่บริสุทธิ์มาก เรียกว่า เป็นคนที่มีเนื้อนาบุญสูง สิ่งเหล่านี้เป็นเคล็ดลับ สำคัญที่จะทำให้เรามีความสุข ความเจริญ นำความร่ำรวยมาสู่ชีวิตได้ แบบยิ่งทำยิ่งรวยแน่นอน

ขอให้พึงสังเกตอะไรอย่างหนึ่ง คนรวยนั้นทำไมมักชอบทำบุญกับพระผู้ใหญ่ที่มีคนเคารพกราบไหว้มากมาย  ก็เพราะเขารู้ว่า ท่านเหล่านั้น เป็นผู้ที่มีเนื้อนาบุญสูง พระผู้ใหญ่เหล่านี้เมื่อรับทานมาแล้ว ท่านจะรีบไปสร้างบุญต่อ ทั้งสร้างโรงพยาบาล สร้างวัด หรือสิ่งที่เป็นสาธารณะประโยชน์ สงเคราะห์คนหมู่มาก บุญนั้นก็ออกดอก ออกผลมากขึ้น

และผู้ที่ทำทานก็จะได้บุญมากขึ้นๆ เพราะ ทุกคนที่มาใช้บริการนั้น เขาจะรู้สึกขอบคุณ มีการโมทนาบุญนั้นตลอดเวลา จากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย จากร้อยเป็นหมื่นเป็นแสน เป็นล้านไม่รู้จบ ครูบาอาจารย์ท่านเรียกว่า บุญงอกออกมา

หลายคนบอกว่า แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ท่านไหนมีเนื้อนาบุญสูง ท่านไหนบริสุทธิ์แค่ไหน ขอให้ดูที่วัตรปฏิบัติของท่านเป็นสำคัญ หรือถ้าไม่รู้ หรือไม่มีโอกาสได้ไปทำบุญกับท่าน แต่อยากได้บุญมากมีวิธีแบบง่ายๆ แต่ได้ผลเลิศ

ครูบาอาจารย์ท่านสอนไว้ว่า  "เวลาที่เราใส่บาตร ทำสังฆทานหรือทำบุญด้วยวิธีใดนั้น ขอให้อธิษฐานถวายแด่พระพุทธเจ้าไปเลย พระสงฆ์ที่ท่านกำลังรับนั้น ท่านเป็นตัวแทนของพระพุทธองค์ เราทำบุญกับพระพุทธเจ้าโดยตรง อานิสงส์ของบุญนั้นจะมากมายขนาดไหน ลองนึกเอา"

นอกจากตัวเราเองเป็นผู้ทำบุญแล้ว การที่เราเป็นผู้ที่ชอบชักชวนผู้อื่นให้ทำบุญนั้น ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้มีบุญมาก และร่ำรวยมากขึ้นได้เพราะการชักชวนผู้อื่น กลายเป็นเครือข่ายของกัลยณามิตร ที่จะช่วยส่งเสริมกันและกันในทางดีทุกวิธีทาง

พระพุทธเจ้า ท่านตรัสสอนไว้ ในเรื่องของการทำบุญไว้ว่า

“บุคคลใดทำบุญด้วยตนเอง ไม่ชักชวนคนอื่น ถ้าเกิดในชาติต่อไปจะร่ำรวยโภคสมบัติ แต่ขาดเพื่อน ขาดบริวารสมบัติ

ถ้าดีแต่ชักชวนเขาไม่ทำเอง ชาติต่อไป มีเพื่อนมาก แต่ตัวเองจน

ถ้าทำบุญด้วยตนเองด้วย ชักชวนผู้อื่นด้วย รวยด้วย มีพรรคพวกมากด้วย”

อ่านมาถึงตอนนี้แล้ว ลองพิจารณาดูก็ได้ว่าเป็นจริงหรือไม่ ลองสังเกตคนที่อยู่รอบๆ ตัวเราว่าเป็นอย่างที่พระพุทธองค์ ได้ทรงตรัสเอาไว้หรือไม่

ประเภทรวย แต่ไม่มีเพื่อนเคยเห็น เคยได้ยินได้เห็นมาหรือไม่

ประเภทเพื่อนเยอะ แต่จนแสนจน มีหรือไม่

ประเภททั้งรวย ทั้งมีเพื่อนมากมาย ทำอะไรทีก็มีคนมาช่วย เพราะรู้จักคนเยอะ

ในบรรทัดสุดท้ายนั้นสำคัญมาก ขอให้เราลองมาพิจารณากันดู ถ้าทำบุญด้วยตนเองด้วย ชักชวนผู้อื่นด้วย รวยด้วย มีพรรคพวกมากด้วย เรื่องนี้นั้นสำคัญมาก เพราะสายใยแห่งบุญที่เชื่อมคนที่ทำบุญร่วมกันมานั้น จะทำให้การทำงานใดๆ การค้าขายใดๆ นั้นสำเร็จได้โดยง่าย เพราะมีบุญกลุ่มหนุนนำอยู่

เปรียบเหมือนกับกระแสน้ำ ถ้าไหลมาจากที่เดียวนั้น อาจจะมีพลังน้อย แต่ถ้าไหลมาจากหลายสายรวมกัน ก็จะกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ไม่มีใครต้านทานได้ วิบากกรรมไม่ดีที่มีกำลังน้อยกว่า ไม่มีทางต้านได้เลย เมื่อไม่มีอุปสรรคขัดขวาง งานที่ทำนั้นก็เกิดผลดีได้ง่ายดาย

ในบริษัทใหญ่หรือองค์กรใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในการทำมาค้าขายนั้น ขอให้สังเกตกันเถอะว่า คนในบริษัทนี้ชอบทำบุญกันทั้งนั้น เวลาไปทำบุญกันทีจะไปหรือทำกันเป็นหมู่คณะ บุญที่ได้จึงเป็นบุญกลุ่มที่ใหญ่และส่งผลได้มาก อานิสงส์บุญนั้นเป็นแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ทำให้บริษัทหรือองค์กรนั้น เจริญขึ้นแบบรวดเร็ว รวยเอาๆๆ

เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้วว่า เราควรสร้างบุญอย่างใดดี ก็เร่งพิจารณาเอาเองว่า ถ้าอยากจะเป็นคนรวย มีความสุข มีพวกพ้องมากมาย ทำอะไรก็สำเร็จตามที่ตนนั้นปรารถนา ควรทำบุญด้วยของที่ดี ทำทานให้ครบทั้ง 3 ประการและชักชวนคนอื่นมาร่วมสร้างบุญด้วยกัน

อยากจะเป็นคนที่มีความสุขและร่ำรวยตลอดกาล ต้องเริ่มที่ตัวเองก่อน  เป็นคนดี หมั่นสร้างบุญกุศล เรื่องของกรรมเก่า ชาติเก่านั้นเราไม่มีทางรู้ได้ว่าเราไปทำอะไรมาบ้าง และจะต้องไปตามแก้กันอย่างไร

ซึ่งที่จริงแล้ว กรรมนั้นแก้ไม่ได้ เพราะมันเกิดขึ้นแล้วต้องส่งผลแน่นอน ที่บอกกันว่าไปแก้กรรมนั้น เป็นเรื่องเข้าใจกันผิดๆ และเป็นการเล่นคำที่ทำให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย

ขอให้เข้าใจด้วยว่า ที่บอกว่าแก้กรรมได้ ในความเป็นจริงก็คือ การไปขออโหสิกรรมเพื่อให้กรรมนั้นยุติการส่งผลหรือเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา  เมื่อเจ้าหนี้หรือเจ้ากรรมนายเวรเขาพอใจได้รับการชดใช้หรือใจดี เพราะเห็นเราสำนึกผิด ทำความดี ทำบุญไปให้เขา เขาก็ยกโทษหรือลดโทษให้

แต่ยังคงได้รับเศษเวรเศษกรรมอยู่ดี จากที่น่าจะตายก็เหลือเพียงแขนหัก ขาหัก น่าจะไฟไหม้หมดตัว ก็เหลือเพียงไหม้แค่ห้องครัว น่าจะต้องสูญเสียคนที่รัก ก้เหลือเพียงเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

กรรมบางกรรมที่ไม่ใช่กรรมหนักนั้น ชาตินี้อาจจะไม่ส่งผลเลยก็ได้ ที่ไม่ส่งผลนั้นในชาตินี้ มีหลายสาเหตุ แต่ที่แน่ๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่า บุญใหม่ที่เราทำในชาตินี้ มีอานิสงส์ มีกำลังมากกว่า ทำให้วิบากกรรมเก่าที่ไม่ดีส่งผลไม่ได้หรือที่เรียกว่า สร้างบุญใหม่หนีกรรมเก่านั่นแหละ

ขอให้คิดว่า ชาติเก่าเป็นอย่างไรก็ช่างมันเถอะ เราไม่รับรู้แล้ว มันจบไปแล้วไปแก้ไขอะไรไม่ให้มันเกิดไม่ได้แล้ว   เอาชาตินี้ ชาติที่เห็นกันชัดๆ ดีกว่า อย่ายอมจำนนต่อกรรมเก่า เร่งสร้างกรรมดี สร้างบุญ ให้ส่งผลให้เห็นกันเลยในชาตินี้ จงจำไว้เสมอว่า


คนมีบุญเท่านั้นที่จะรวยได้เท่านั้น 
ที่มา : https://torthammarak.wordpress.com/2013/06/29/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A2/

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วิธีกรวดน้ำ (ที่ถูกต้อง)



การกรวดน้ำ คือ การตั้งใจอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่เราได้ทำไว้แล้วไปให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วพร้อมทั้งรินน้ำให้ไหลลงไปที่พื้นดินหรือที่รองรับ แล้วเอาไปเทที่พื้นดินอีกต่อหนึ่งหรือรดที่โคนต้นไม้ก็ได้ เพื่อให้จำง่ายไม่สับสน จึงขอแยกเป็นข้อๆ ดังนี้

1. การกรวดน้ำมี 2 วิธี คือ

กรวดน้ำเปียก คือ ใช้น้ำเป็นสื่อ รินน้ำลงไปพร้อมกับอุทิศผลบุญกุศลไปด้วย
กรวดน้ำแห้ง คือ ไม่ใช้น้ำ ใช้แต่สิบนิ้วพนมอธิษฐาน แล้วอุทิศผลบุญกุศลไปให้

2. การอุทิศผลบุญมี 2 วิธี คือ

อุทิศเจาะจง ได้แก่ การออกชื่อผู้ที่เราจะให้ท่านรับ เช่น ชื่อพ่อ แม่ ลูก หรือใครก็ได้
อุทิศไม่เจาะจง ได้แก่ การกล่าวรวมๆกันไป เช่น ญาติทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นต้น ทางที่ถูกควรทำทั้งสองวิธี คือผู้ที่มีคุณหรือมีเวรต่อกันมาก เราก็ควรอุทิศเจาะจง ที่เหลือก็อุทิศรวมๆ

3. น้ำกรวด

ควรเป็นน้ำที่สะอาด ไม่มีสีและกลิ่น และเมื่อกรวดก็ควรรินลงในที่สะอาดและไปเทในที่สะอาด และที่สำคัญ อย่ารินลงกระโถนหรือที่สกปรก

4. น้ำเป็นสื่อ - ดินเป็นพยาน

การกรวดน้ำมิใช่จะอุทิศไปให้ผู้ตายกินน้ำ แต่ใช้น้ำเป็นสื่อและใช้แผ่นดินเป็นพยาน
ให้รับรู้ในการอุทิศส่วนบุญ

5. ควรกรวดน้ำตอนไหนดี ?

ควรกรวดน้ำทันทีในขณะที่พระอนุโมทนาหรือหลังทำบุญเสร็จ แต่ถ้าไม่สะดวกจะทำตอนหลังก็ได้ แต่ทำในขณะนั้นดีกว่า ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ

- ถ้ามีเปรตญาติมารอรับส่วนบุญ ท่านก็ย่อมได้รับในทันที

- การรอไปกรวดที่บ้านหรือกรวดภายหลัง บางครั้งก็อาจลืมไป ผู้ที่เขาตั้งใจรับก็อด ผู้ที่เราตั้งใจจะให้ก็ชวดไปด้วย

6. ควรรินน้ำตอนไหน ?

ควรเริ่มรินน้ำพร้อมกับตั้งใจอุทิศ ในขณะที่พระผู้นำเริ่มสวดว่า “ยะถาวาริวะหาปูรา...”
และรินให้หมดเมือ่พระว่ามาถึง “…มะณิโชติระโส ยะถา...” พอพระทั้งหมดรับพร้อมกันว่า
“สัพพีติโย วิวัชชันตุ...” เราก็พนมมือรับพรท่านไปจนจบ จึงจะถือว่าถูกต้อง

7. ถ้ายังว่าบทกรวดน้ำไม่เสร็จ จะทำอย่างไร ?

ก็ควรใช้บทกรวดน้ำที่สั้นๆหรือใช้บทกรวดน้ำย่อก็ได้ เช่น “อิทัง โน ญาตีนังไหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขออุทิศส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ .... (ออกชื่อผู้ล่วงลับ) .... และญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอญาติทั้งหลายจงเป็นสุขเถิด”

หรือจะใช้แต่ภาษาไทยอย่างเดียวก็ได้ว่า “ขออุทิศส่วนบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วนี้ จงสำเร็จแก่ พ่อ แม่ ญาติ ครูอาจารย์ ผู้มีพระคุณเจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงได้รับส่วนบุญกุศลครั้งนี้โดยเร็วพลัน และโดยทั่วถึงกันเทอญ” ส่วนบทยาวๆ เราควรเอาไว้กรวดส่วนตัว หรือกรวดในขณะทำวัตรสวดมนต์รวมกันก็ได้

ข้อสำคัญ ถ้าเป็นภาษาพระ ควรจะรู้คำแปลหรือความหมายด้วย ถ้าไม่รู้ความหมาย
ก็ควรใช้คำไทยอย่างเดียวดีกว่า เพราะป้องกันความโง่งมงายได้

8. อย่าทำน้ำสกปรกด้วยการเอานิ้วไปรอไว้

ควรรินให้ไหลเป็นสายไม่ขาดระยะ และไม่ควรใช้วิธี เกาะตัวกันเป็นกลุ่มหรือเป็นทางเหมือนเล่นงูกินหาง ถ้าเป็นในงานพิธีต่างๆ ให้เจ้าภาพหรือประธาน รินน้ำกรวดเพียงคนเดียวหรือคู่เดียวก็พอ คนนอกนั้นก็พนมมือตั้งใจอุทิศไปให้

9. การทำบุญและอุทิศส่วนบุญ

ควรสำรวมจิตใจ อย่าให้จิตฟุ้งซ่าน ปลูกศรัทธา ความเชื่อ
และความเลื่อมใสให้มั่นคงในจิตใจ ผลของบุญและการอุทิศส่วนบุญย่อมมีอานิสงค์มาก
ผลบุญที่เราอุทิศไปให้ ถ้าไม่มีใครมารับก็ยังคงเป็นของเราอยู่ครบถ้วน ไม่มีผู้ใดจะมาโกงหรือแย่งชิงไปได้เลย

10. บุญเป็นของกายสิทธิ์

ยิ่งให้ยิ่งมาก ยิ่งตระหนี่ยิ่งน้อย ยิ่งอุทิศให้คนอื่นหมดเลยเราก็ยิ่งจะได้บุญหมดเลย

ที่มา : http://board.palungjit.org/f8/%E0%B9%81%E0%B8%99%E0%B8%B0%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3-10-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%96%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A3-567642.html

วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

วิธีแก้กรรม/ลดกรรม ด้วยวิธีใส่บาตรให้ถูกวิธี โดย พระธรรมสิงหบุราจารย์ ( หลวงพ่อจรัญ )


“ท่านพระธรรมสิงหบุราจารย์ ( หลวงพ่อจรัญ ) ท่านแนะนำว่า …
ก่อนใส่บาตร…
ให้จุดธูป 3 ดอกกลางแจ้ง ขอขมากรรม โดย ตั้ง นะโม 3 จบ...แล้วกล่าวว่า...
"ข้าพเจ้าขอขมากรรม ต่อเจ้ากรรมนายเวร ศัตรู หมู่มาร หมู่พาล ทุกภพทุกชาติ ขอให้อโหสิกรรม ให้ขาดจากกัน"

หลังใส่บาตรเสร็จ…
ทุกครั้ง ให้ ตั้ง นะโม 3 จบ แล้วกล่าวว่า...
"กุศลที่ลูกได้ทำแล้ว ขอถวายแด่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 5 พระองค์ ขอให้ทุกพระองค์ นำส่งบุญให้ข้าพเจ้า มีเดช ปัญญา โภคะ ขอให้สมหวัง สมปรารถนาทุกเรื่อง ขอให้มีบุญบารมีเต็มขั้น เกิดสภาวะธรรม ตามบุญวาสนาที่ได้ทำมา จากทุกภพทุกชาติโดยเร็วเทอญ และ ขออุทิศให้ เจ้ากรรมนายเวร ทุกภพทุกชาติ (วิญญาณ) ศัตรูหมู่มารหมู่พาล (เช่น มนุษย์,หุ้นส่วน,เพื่อน,ในครอบครัว) ทุกภพทุกชาติ (เอ่ยชื่อได้ยิ่งดี) ขอให้อโหสิกรรม ขอให้ขาดจากกัน ณ เดี๋ยวนี้ เทอญ...ขอให้อุปถัมภ์ค้ำจุนข้าพเจ้า..."

ถ้าทำบุญด้วยข้าวสารเป็นกระสอบ หรือ ถมทราย ดิน ก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า …
 "ผลบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้าร่ำรวย เหมือนเมล็ดข้าวสาร เม็ดทราย ดิน เจ้ากรรมนายเวร ตามเมล็ดข้าวสาร ตามเม็ดทรายดิน ขอให้ได้รับ และขอให้อโหสิกรรม หลุดขาดจากกัน ณ บัดนี้เดี๋ยวนี้เทอญ ขอให้ข้าพเจ้า มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง พบแต่ ผู้อุปถัมภ์ค้ำชู..."

กรณีที่ดวงตกมาก
ขอให้แผ่บุญให้ตนเอง ให้มาก ๆ บางท่านก็แผ่ให้ผู้อื่น จนลืมให้ตัวเอง ตัวเราเอง ต้องมีบุญบารมี แก่กล้า จริง ๆ จึงจะช่วย และให้ผู้อื่นได้ ควรสวด อิติปิโส ฯ เลยอายุ 1 จบมีเวลาขอให้ไป ปฏิบัติธรรม ฝึกวิปัสสนาด้วย จะเกิดผลเร็ว โทสะจะน้อยลง ควรแผ่เมตตาให้มากๆ วันละ 10 – 30 ครั้ง การแผ่เมตตาที่ได้ผลนั้น ท่านพระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ) แนะนำว่า...
 " ถ้าจะกรวดน้ำ ต้องกรวดน้ำลงดิน ทุกครั้ง วันละ 100 ครั้ง เจ้ากรรมนายเวรจะหาย 100 เท่า 100 วิญญาณ หรือ ใช้สมาธิกำหนดอธิษฐานจิต ด้วยความตั้งใจ ประกอบด้วยความมีสติ และสัมปชัญญะ แผ่เมตตาออกจาก ลิ้นปี่ แล้วอุทิศส่วนกุศล จากจักระ 6 หรือบริเวณตาที่สาม ที่กลางหน้าผาก ต่ำลงเล็กน้อย จะได้ผลมากขึ้น อุทิศบุญ ใช้กับผู้ตาย นำส่งบุญ ใช้กับผู้ยังมีชีวิตอยู่ ถวายบุญกุศล ใช้กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแก้กรรมให้ตนเองได้ผลดีเร็วขึ้น.. "

วิบากกรรมของแต่ละคน ล้วนแตกต่างกันไป บางคนป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ บางคนตกงานบ่อย บางคนลำบากมาก หากินไม่คล่อง บางคนลูกเกเร วิบากกรรมนี้ ตามมาหลายภพหลายชาติ ซึ่งมีส่วนทำให้เรา เกิดมาแตกต่างกัน แต่ อย่าเพิ่งสิ้นหวัง หนทางในการบรรเทาวิบากกรรมนั้นมี ซึ่งอาจทำได้หลายวิธี ดังนี้
เวลาที่เราทำบุญ หรือทำความดีทุกครั้ง นอกจากบุญที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา เช่น การใส่บาตร การถือศีล ฯลฯ แล้วการพูดคุยที่ช่วยให้ผู้อื่นสบายใจ การสนทนาธรรม การให้ธรรมทาน การร่วมบริจาค หนังสือธรรมะ ชี้แนะแนวทาง แก้ไขปัญหาชีวิต ให้กับผู้สิ้นหวัง การทำความสะอาดห้องพระ การถวายน้ำเปล่าเพียง 1 แก้ว ให้กับหิ้งพระพุทธฯ การร่วมอนุโมทนา การทำความดีของผู้อื่น โดยการใช้ จิตน้อมไปทางบุญกุศล การกวาดใบไม้ ทำสวน ทำความสะอาด ห้องน้ำ หรือของส่วนรวม การดูแลคนแก่ เด็ก การที่เรามีจิตใจดี หรือตั้งใจดี ฯลฯ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ล้วนเป็นกุศล และเป็นบุญทั้งสิ้น

ให้ ตั้ง นะโม 3 จบ …
" ข้าพเจ้า (บอกชื่อตัว) นามสกุล เกิดวันที่ วันนี้ ข้าพเจ้าขอตั้งจิต ถึงบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั่วสากลโลก รวมถึง องค์เทพ องค์พรหม ที่ปกปักรักษากายสังขารวิญญาณลูกอยู่ วันนี้ลูกตั้งจิตถวาย (บุญที่ทำ เช่นใส่บาตร ถือศีล สวดมนต์ ให้ทาน ฯลฯ) ลูกขอถวายบุญกุศลนี้ แด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์ นำส่งบุญให้ลูกเจริญขึ้น ทั้งการงานการเงิน และความรัก ให้ลูกมีเดช ปัญญาโภคะ (ความสมบูรณ์) ทุกภพทุกชาติ และขออุทิศบุญกุศลนี้ ให้กับเจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติ รวมถึงวิญญาณที่ตามมา ทุกผู้ทุกคน ศัตรูหมู่มารหรือหมู่พาล คือมนุษย์ เช่น บริวาร ญาติมิตร คนรับใช้ สามี บุตร ธิดา ทุกภพทุกชาติ ขอให้ได้รับมหากุศลนี้ รับแล้วขอให้อโหสิกรรม ซึ่งกันและกัน ให้ขาดจากกัน ณ.เดี๋ยวนี้บัดนี้ ขอให้ข้าพเจ้า มีบุญบารมีสูงขึ้นๆ เต็มขึ้น เพื่อช่วยสังคมให้สูงขึ้น และสร้างคนให้เป็นพระต่อไป และให้เกิด ปัญญาทางธรรม สมบูรณ์พูนผลทุกอย่าง ด้วยบุญที่ทำนี้เทอญ สาธุ.."

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วิธีปฏิบัติเพื่อส่งเสริมเรื่อง โชคลาภ การเงิน (ให้ปัง!) หลังเปลี่ยนเบอร์ (คนไม่เปลี่ยนเบอร์ก็ทำได้นะ)



เรื่องที่จะแบ่งปันนี้ คือสิ่งที่ผมได้ทดลองมากับตัวตอนช่วงการเงินแย่ๆและว่างงานอยู่ (ยังไม่รู้ศาสตร์ตัวเลขด้วย)...ตอนนั้นต่อเนื่องอยู่ 2 เดือน กลับสามารถพลิกฟื้นให้การเงินคล่องตัวขึ้นและได้งานที่ดีกว่าเดิม ซึ่งผมต้องขอยกความดีความชอบให้กับหนังสือ The Meta Secret (สุดยอดเดอะซีเคร็ต) ผมแค่ดึงกฏในหนังสือมาแค่ 1 ข้อเท่านั้นเอง โดยใช้วิธีทางพุทธศาสนา ชีวิตก็ดีขึ้นมากเลย มาเล่าวิธีการปฏิบัติกันเลย

1. ตื่นขึ้นมาสวดมนต์ตอนเช้า ระหว่างช่วงเวลา 4.00 น. - 6.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่ได้ผลจากการสวดมนต์มากที่สุด จะสวดช่วงอื่นก็ได้ครับ แต่ได้พลังไม่มากเท่าช่วงนี้
2. สวดมนต์ บททำวัตรเช้า หรือ บทสวดมนต์ประจำวันก็ได้ครับ แต่ให้เพิ่มบทสวด บทสวด ระตะนะสุตตัง (รัตนสูตร) , กรณียเมตตสูตร , ธัมมจักกัปปวัตนสูตร , บทขอขมากรรม และ บทแผ่เมตตา
3. ใส่บาตร ครับ โดยก่อนใส่บาตร ให้สวด คาถาเงินล้าน 9 จบ ก่อนครับ
4. กรวดน้ำลงบนดินใต้ต้นไม้ โดยอาจกล่าวว่า "ด้วยบุญนี้ข้าพเจ้าถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ทุกพุทธกาล ด้วยบุญขอส่งไปยังที่ทำการประชุมใหญ่พระแม่ธรณี ขอพระแม่ธรณีเป็นทิพยพยานให้บุญนี้ ขอท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 โปรดนำบุญนี้ส่งไปยัง ...(บุคคลที่เราต้องการอุทิศบุญให้ และเจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติ)..."

ทำ 4 ข้อนี้ครบต่อเนื่อง 1 - 3 เดือน คุณจะเริ่มรู้สึกอะไรบ้างอย่างแล้วครับ ถ้าทำต่อไปเรื่อยๆชีวิตคุณก็จะดีขึ้นกว่าเก่าแน่นอนครับ

วันศุกร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ขั้นตอนการเปิดเบอร์ และ หลังเปิดเบอร์

สำหรับท่านที่หาเบอร์ที่เหมาะสมกับตัวท่านมาได้แล้ว เพื่อความเป็นสิริมงคลแด่ตัวท่านเองท่านควรที่จะทำบุญทำทานเพื่อที่ท่านจะได้มีชีวิตเจริญยิ่งๆขึ้นไป

ขั้นตอนการเปิดเบอร์มีดังต่อไปนี้


1. เลือกทำบุญ เช่น
   - บริจาคโลงศพ 1 โลง
   -  หรือ บริจาคเงินให้องค์กรการกุศล 300-500 บาท
   - หรือ ใส่บาตรพระหรือเณร 6 รูป
   - หรือ ถวายสังฆทาน
2. กรวดน้ำลงภาชนะที่ใช้รองน้ำ ก่อนนำไปเทลงบนแผ่นดิน โดย ตั้งนะโม 3 จบ และกล่าวง่ายๆดังนี้ 
   "ด้วยเดชแห่งบุญนี้ ขอถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมะบูชา สังฆบูชา ทุกพุทธกาล และขอส่งบุญนี้ไปยังที่ทำการประชุมใหญ่พระแม่ธรณี ขอพระแม่ธรณีเป็นทิพย์พยานในการบุญครั้งนี้ ขอท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 โปรดนำข่าวบุญกุศลครั้งนี้ไปแจ้งแด่
    1. เทวดาประจำตัว
    2.ครูบาอาจารย์ทางโหราศาสตร์ที่เป็นสัมมาทิฏฐิทุกท่าน
    3.เทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองดูแลประเทศไทย อันได้แก่ พระสยามเทวธิราช พระหลักเมือง พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬชัยศรี พระหอ-กลอง พระเจตคุปภ์ โดยมีพระแก้วมรกตเป็นประธานเป็นที่สุด

    4. ผู้แนะนำให้เปลี่ยนเบอร์ เช่น ...(ใส่ชื่อผู้แนะนำ ในที่นี้ คือ คุณตรินัยน์ จันทร์คง)
    5.เจ้ากรรมนายเวรที่ปรากฏในเบอร์เก่าของข้าพเจ้า ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตามขอให้ท่านได้โปรดอโหสิกรรมๆและอนุโมทนาบุญกับข้าพเจ้าด้วย

    6.จิตวิญญาณนักรบทั้งหลายที่ตายบนผืนแผ่นดินไทย ขอให้ท่านรับบุญนี้นี้แล้วคลายความยึดมั่ยถือมั่นและไปสู่สุขคติด้วยเทอญ"

3. คำอธิฐาน "ด้วยเดชแห่งบุญนี้ขอให้กายสังขารนี้เปิดรับแต่ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ คุณบิดามารดา คุณครูบาอาจารย์ สรรพมงคลทั้งหลายอันเกิดจากพระรัตนตรัย และพลังงานที่ดีจากเบอร์...(แจ้งเบอร์ที่จะใช้ทั้งหมด)... โดยขอให้เบอร์เหล่านี้ส่งเสริมให้ข้าพเจ้า...(ชื่อเจ้าของ)...ได้...(เรื่องที่ต้องการ)...ด้วยเทอญ 


หลังเปิดเบอร์
อันนี้ผมเพิ่มเติมขึ้นมานะครับ เพราะผมสังเกตุเห็นว่ามีเบอร์ที่ดีและเป็นมงคลกลับเข้ามาอยู่ในระบบของเครือข่ายมือถือเรื่อยๆ เพราะ เมื่อใช้เบอร์ดี เบอร์มงคล ซักระยะนึงทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตดีขึ้น ก็เกิดการชะล่าใจ ไม่สนใจบุญกุศล ดังนั้นเมื่อบุญเริ่มหมด ก็จะต้องปิดเบอร์หนีหนี้บ้าง ปิดเบอร์หนีคนบ้าง ดังนั้นผมจึงขอเพิ่มส่วนนี้เข้ามา
   1. ควรทำบุญ ทำทาน อย่างน้อยๆ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง
   2. ทานมังสวิรัติ สัปดาห์ละ 1 วัน

หมายเหตุ หากท่านที่ต้องการหาเบอร์มือถือด้วยตนเอง และยังหายากอยู่ แนะนำให้หมั่นทำบุญ และทานมังสวิรัติ เรื่อยๆจนกว่าจะได้เบอร์ที่ต้องการนะครับ

บทความที่ได้รับความนิยม