บทความแนะนำ

บทความ ศาสตร์แห่งดวงดาว
เบอร์มงคล 100% ผลรวมดี ทั้งคู่ ทำไมคนหนึ่งชีวิตดีแต่อีกคนชีวิตแย่?!?!?
ตัวเลขส่งเสริมการเงินและโชคลาภ
กลุ่มส่งเสริมการเงิน ตัวเลขมหาอุจจ์
กลุ่มส่งเเสริมการเงิน มหาจักร
กลุ่มส่งเเสริมการเงินราชาโชค
กลุ่มแสดงถึงความมั่นคงทางการเงินและรายได้
ตัวเลข ปัญหา/อุปสรรค/ศัตรู
ตัวเลขส่งเสริมเรื่อง ความรัก และ คู่ครอง
ตัวเลขส่งเสริมเรื่อง ลูกค้าและเพื่อนฝูง
ตัวเลขส่งเสริมเรื่อง ผู้อุปถัมภ์ ความสำเร็จ และ ความรุ่งเรือง
ตัวเลข วินาสน์ (ล่มสลาย,ฉับพลัน,เปลี่ยนแปลง,ที่ลับ,คนแปลกหน้า)
ประสบการณ์ผู้ที่ใช้เบอร์พลังดวงดาวตามลัคนา และมีเงินซื้อรถ 2 คัน บ้าน 2 หลัง
Case Study : เปลี่ยนเบอร์ตามหลักศาสตร์แห่งดวงดาวแล้วขายที่ดินได้ในราคาสูง
แย่แล้ว !!! เบอร์มังกร (789) ทำฉันเป็นหนี้ !!!!
ว่าไงนะ!!! เบอร์หงส์ (289) พ่นพิษ !!! เสียบ้านที่อุตส่าห์ซื้อมา
เบอร์เสน่ห์ตามหลักเลขศาสตร์ VS เลขการเงินตามศาสตร์แห่งดวงดาว
กำลังดวงดาว 9 หมายถึงอะไร?
เบอร์มงคล 10 หลัก ผลรวมดี ทำไมชีวิตฉันจึงลำบาก!!!

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

กำลังดวงดาว 9 หมายถึงอะไร?


หลายๆคนที่เคยซื้อหนังสือ "Unlock ปลดล๊อคชีวิตด้วยพลังตัวเลข" เมื่อถึงข้อการคำนวณพลังดวงดาว ซึ่งตกเลข 9 ก็มักเข้ามาถามผมว่ามันแปลว่าอะไร เพราะในเรือนชะตาไม่มีเลข 9

ซึ่งจริงๆแล้ว ความหมายอยู่ในบทของ ความหมาย 0-9 อยู่แล้วน่ะครับ โดยผมจะอธิบายเพิ่มเติมในบทความนี้เลยละกันครับ

กำลังดวงดาว 9 หรือ ดาวเกตุ เป็นดาวที่ไม่มีเรือน ดังนั้นจึงมีสภาพเป็นวิญญาณธาตุ ซึ่งจะอยู่ในลักษณะเหมือนดาวเทวดา หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีหน้าที่คุ้มครองมนุษย์

ดังนั้นเมื่อมีการคำนวณกำลังดวงดาวได้เลข 9 ก็จะแปลว่า "มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เจออุบัติเหตุแล้วมักรอดพ้น ทำบุญได้ผลไว มีลางสังหรณ์แม่น มักได้พระเครื่องหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เองโดยไม่ต้องไปแสวงหา มักเห็นหรือสัมผัสสิ่งลึกลับบ่อยๆ เช่นเห็นอะไรแว๊บๆที่หางตา หรือฝัน(นอนหลับฝัน)อะไรแล้วมักแม่นยำ อาจต้องไปเกี่ยวข้องกับสิ่งของโบราณหรือสถานที่โบราณต่างๆ "

จะเห็นได้ว่า แม้คนๆนั้นไม่ถือเบอร์ที่มี 0 หรือ 9 จำนวนมากก็อาจมีเซ็นซ์ที่แม่นยำได้ ดังนั้นใครคำนวณได้เลข 9 ก็ให้หมั่นปฏิบัติธรรม สวดมนต์ และทำบุญบ่อยๆนะครับ เพราะจะได้โชคลาภ ไม่คาดฝัน

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

วิธีแก้ไขวิบากกรรมหนักฉบับเร่งด่วน


ตัวอย่างเคล็ดลับการเสริมสร้างพลังบุญเฉพาะเรื่อง

– กรณีที่มีวิบากกรรมหนัก ก็ต้องสร้างพลังบุญที่ยิ่งใหญ่ รุนแรง เพื่อทุเลาและแก้ไขวิบากกรรมนั้นด้วยอย่างทันท่วงที เช่น สร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ (ถ้ากำลังในทรัพย์ปัจจัยไม่พอ ก็ให้หาเป็นเจ้าภาพร่วม ตามสถานที่ต่างๆ ที่มีการสร้าง ) สร้างวัด โบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ สถานปฏิบัติธรรม อุทิศตัวเข้าบวชในบวรพุทธศาสนา ถ้าเป็นหญิงก็ให้บวชชี (หากไม่สะดวก ก็บวชแบบชีพราหมณ์ก็ได้) ถือศีล ปฏิบัติธรรม การบวช หรือปฏิบัติธรรม ถ้าเป็นไปได้อย่างน้อย 9 วัน ขึ้นไป แล้วอุทิศไปให้เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ต้องเกิดวิบากกรรมอันหนักนั้น ถ้าทำบุญใหญ่ ๆ ได้ หลายๆอย่าง และมากๆ ในห้วงเวลาเดียวกัน ก็จะยิ่งช่วยได้มาก การแก้ไขวิบากกรรมก็จะได้ผลเร็วยิ่งขึ้น

– สุขภาพไม่แข็งแรง เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่บ่อย ๆ การปล่อยชีวิตสัตว์ ไถ่ชีวิตสัตว์ ถือว่าได้บุญ อันเนื่องมาจากการที่ได้ต่อชีวิตให้สัตว์ อานิสงส์จะทำให้มีอายุยืน สุขภาพแข็งแรง ช่วยคลายวิบากกรรมเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วย เคล็ดลับให้ได้บุญมากยิ่งๆ ขึ้น ให้ไปซื้อหรือไถ่ชีวิตสัตว์ที่เขากำลังจะฆ่า เช่น ไปซื้อปลาที่เขากำลังจะฆ่าและนำเอาไปทำอาหาร และก่อนที่จะนำปลาไปปล่อย ให้นำไปถวายพระสงฆ์ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญที่ดีก่อน เมื่อท่านรับและอนุโมทนาแล้ว เราก็ขออนุญาตนำปลานั้นคืนมา เพื่อที่จะเอาไปปล่อย (เพราะเราถวายปลาไปแล้ว และปลานั้นก็ได้เป็นของพระไปแล้ว) ด้วยการถวายปัจจัยชำระหนี้ค่าปลาให้แก่พระสงฆ์ ตามจำนวนราคาที่เราซื้อมา หรือมากกว่า บุญนี้ก็จะได้มากกว่าการที่เราไปซื้อปลา และนำไปปล่อยเอง เพราะเป็นบุญที่ได้ทวีคูณเพิ่มขึ้น ตามค่าตัว หรือคุณธรรมของพระสงฆ์ซึ่งเป็นเนื้อนาบุญ รวมไปถึงการถวายยารักษาโรค เป็นเจ้าภาพดูแลรักษา พระสงฆ์ที่อาพาธ (ป่วย)

– วิบากกรรมอันเกิดจากการทำแท้ง ก็เป็นวิบากกรรมหนัก ประเภทนี้ขอให้สังเกตว่ามักจะทำอะไรไม่ขึ้น เหมือนมีอะไรมาขัดขวางอยู่ตลอดเวลา บางที เหมือนทำท่าว่าจะได้ จะสำเร็จแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ ไม่สำเร็จ เรียกว่ากินแห้วพลาดเป้าไปทุกที นั่นเป็นเพราะกรรมที่เคยไปตัดโอกาสในการมีชีวิตของผู้อื่น นอกจากจะแก้ไขด้วยการสร้างพลังบุญที่ยิ่งใหญ่ รุนแรง ด้วยการปฏิบัติดังที่ได้แนะนำข้างต้นแล้ว ก็ให้เสริมด้วยการไปซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ของเด็กทารก เช่น ขวดนม นมผง ผ้าอ้อม รถเข็นเด็ก ของเล่นเด็ก ฯลฯ แล้วก็นำไปถวายให้แก่พระสงฆ์ และก็ใช้วิธีการเดียวกับเคล็ดลับการปล่อยปลาข้างต้น แล้วก็นำของเหล่านั้น ไปบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กอ่อนต่อไป

– เรียนหนังสือไม่ดี (ทั้งที่ขยันก็แล้ว)ความจำไม่ดี คิดอ่านอะไรก็ช้า ปัญญาไม่แล่น จะเล่าเรียนเขียนอ่านอะไร ก็มีปัญหามีอุปสรรคไปหมด เป็นวิบากกรรมที่เกิดจากการไปขัดขวางไม่ให้คนได้มีความรู้ เคยไปบั่นทอนสติ และปัญญาของผู้อื่นด้วยประการต่างๆ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องสนับสนุนในการกระทำนั้น เช่น ผลิต จำหน่ายสุรา เครื่องดองของมึนเมา ยาเสพติด ทั้งหลายทำให้คนหลงใหลในอบายมุข ชี้นำสั่งสอนในสิ่งที่ผิดไม่ถูกต้องตามธรรมให้ผู้คน ได้ปรามาสหรือ ดูหมิ่นดูแคลนผู้มีความรู้ ผู้ทรงศีลทรงธรรม การทุเลาและแก้วิบากกรรมในกรณีนี้ ให้ไหว้พระสวดมนต์ ขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์ ผู้มีความรู้ทั้งหลายที่เราได้เคยละเมิด ล่วงเกินมา มากๆ บ่อยๆ ต้องปฏิบัติธรรม สร้างธรรมทานด้วยการแจกหนังสือธรรมะ สื่อธรรมะของครูบาอาจารย์ผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบ หนังสือสวดมนต์ (กรณีหนังสือธรรมะต้องมั่นใจว่า เป็นธรรมะที่ถูกต้องด้วย ถ้าไม่แน่ใจต้องให้ครูบาอาจารย์ที่ท่านเป็นผู้รู้จริงพิจารณาก่อน) ถวายสื่อการเรียนการสอนธรรมะ ถวายหนังสือพระไตรปิฎก เป็นเจ้าภาพ หรือร่วมสนับสนุน อุปถัมภ์ค้ำจุนเรื่องการประพฤติปฏิบัติธรรม การศึกษาเล่าเรียน เช่น ให้ทุนจัดฝึกอบรมการปฏิบัติธรรม สร้างวัด สถานปฏิบัติธรรม ให้ทุนการศึกษา พระสงฆ์ เณร นักเรียน นักศึกษาที่ดีมีศีลมีธรรม


ข้อควรปฏิบัติในการดำรงชีวิตในแต่ละวันเพื่อเพิ่มพลังบุญ
1. ตั้งใจรักษาศีล ด้วยการสมาทานศีล 5หรือศีล 8
2. สวดมนต์ด้วยบทสวดต่างๆ อย่างน้อยที่สุดให้ได้ 1 บทสวด วันละครั้งก่อนนอน โดยเฉพาะบทสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ (อิติปิโส ฯ…)
3. นั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ 15 นาที (หรือเดินจงกรมก็ได้)
4. แผ่เมตตา อุทิศบุญ ให้แก่เทพเทวดา เจ้ากรรมนายเวร บุคคลที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ
5. อธิษฐานขอให้ผลบุญนี้ ไปเป็นพลังเพื่อความสำเร็จต่าง ๆ ดังที่เราปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นทางโลก หรือทางธรรม หรือทั้งทางโลกและทางธรรม
6. ทำทาน ให้ได้ในแต่ละวัน ทุก ๆ วัน ตามกำลัง เช่น ใส่บาตร ถวายสังฆทาน หรืออื่น ๆ ตามความเหมาะสม หากไม่สะดวก ไม่มีโอกาสที่จะทำได้ทุกวัน ก็ให้นึกถึงเรื่องการให้ทานไว้ทุกวัน โดยตั้งจิตเจตนาไว้อยู่เสมอว่าเมื่อถึงเวลานั้นแล้วจะไปทำทาน เช่น สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทุก ๆ วันอาทิตย์ ควรตั้งสัจจะไว้ ไม่ควรคิดว่า เอาไว้เมื่อมีความพร้อม มีเวลา มีโอกาสแล้วจึงจะไปทำ เพราะถ้าคิดอย่างนั้นแล้ว ส่วนมากจะหาโอกาสได้ยาก กิเลสมักหาข้ออ้างได้เสมอ
7. การอธิษฐานต่าง ๆ ให้ตั้งจิตมุ่งมั่นแน่วแน่ ปักลงไปในเป้าหมายอย่างแท้จริง ให้มั่นใจในพลังบุญของเรา มองเห็นภาพความสำเร็จเกิดขึ้นอย่างชัดเจนแน่นอน ไม่ลังเลสงสัย (ให้คิดบวกเสมอ) เมื่อผลสำเร็จยังไม่เกิดขึ้น อย่าเพิ่งท้อแท้ นั่นเป็นเพราะองค์ประกอบของเหตุปัจจัยที่ทำลงไปยังไม่สมบูรณ์เพียงพอ และในแต่ละคนก็มีไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน ให้ปฏิบัติต่อเนื่องต่อไป ช้าเร็วอย่างไรก็ต้องสำเร็จแน่นอน ยังไงก็ต้องได้เห็น บางทีความสำเร็จอาจมาโดยคาดไม่ถึงเสียด้วยซ้ำไป และเมื่อสำเร็จแล้ว ก็ให้ทำต่อไป จะเป็นการเพิ่มพลังบุญของเราไปเรื่อยๆ หากยังต้องเวียน ว่าย ตายเกิด อยู่ในวัฏสังสารนี้ พลังบุญที่เราสะสมไว้นี้ ก็จะเป็นทุนรอนในภพชาติหน้าต่อไป


วิธีการเชื่อมบุญ และเคล็ดลับสำคัญ *
หลังจากที่เราได้ทำบุญ บุญก็เกิดขึ้น และเมื่อบุญเกิดขึ้นแล้ว เรายังสามารถน้อมเอาผลบุญนั้น มาอุทิศให้แก่ผู้อื่น เพื่อให้ผู้อื่นนั้นมีความสุขด้วย อีกทั้งยังเป็นการชดใช้หนี้เวร หนี้กรรม เศษเวร เศษกรรม ทั้งหลาย ที่เกิดจากบาปเวรอกุศลกรรมที่เราเคยสร้างไว้ เป็นผลให้เราได้รับวิบากกรรมชั่วต่าง ๆ นา ๆ (ที่เรามักเรียกว่ากันว่าเจ้ากรรมนายเวรนั่นเอง)

ต่อจากนั้นเราก็ตั้งจิตกล่าวอุทิศผลบุญทั้งหลายนี้ ให้กับบุคคลทั้งหลายที่เราปรารถนาจะอุทิศให้ แล้วจึงอธิษฐาน เพื่อให้บุญนั้นเกิดเป็นความสำเร็จในกิจการงานต่าง ๆ ตามที่เราได้ปรารถนา หรือตั้งเป้าหมายไว้ ส่วนการที่เราจะอุทิศบุญให้แก่ใคร บุคคลใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเราจะไปเกี่ยวพันเชื่อมโยงกับบุคคลต่าง ๆ เหล่านั้น ในแง่ใด สถานการณ์ใด (รวมทั้งที่อยู่ในภพภูมิอื่น ๆ) แล้วจึงอุทิศเจาะจงไปให้ (การอุทิศบุญต้องเจาะจง)

ดังนั้น การเชื่อมบุญ และการพึ่งบุญ ก็เป็นการอุทิศบุญเจาะจงไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์สุขและความสำเร็จ ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือหลายๆ สิ่งที่พึงปรารถนา หรือตั้งเป้าหมายไว้นั่นเอง
*** (ควรทำให้ได้ทุกวัน ในแต่ละวันที่ได้ทำบุญไป และควรทำบุญให้ครบส่วน ทั้งในส่วนของ ทาน ศีล ภาวนา กรณีไม่มีโอกาสได้ทำทานทุกวัน หรือคิดว่ายังไม่พร้อมเพียงพอในเรื่องทรัพย์ปัจจัยที่จะนำไปใช้ในการทำบุญ ก็ให้ตั้งเจตนาไว้ก่อน โดยหมั่นสะสมทรัพย์ไว้ ใช้วิธีหยอดเงินใส่กระปุกออมสินรวบรวมไว้ก็ได้ แล้วจึงนำไปทำทาน ถวายทาน ในแต่ละสัปดาห์ หรือตามโอกาส ควรทำบ่อยๆ และต่อเนื่อง จะทำให้จิตระลึกถึงบุญกุศลอยู่เสมอ และก่อให้เกิดผลสำเร็จตามที่ได้อธิษฐานไว้)


ขั้นตอนการอธิษฐาน และอุทิศบุญ *
ให้ทำเบื้องหน้าพระพุทธรูป (โต๊ะหมู่บูชา หิ้งพระ ถ้าในที่พักไม่มี ก็ให้อยู่ให้ในสถานที่อันควร เป็นที่สงบ แล้วน้อมระลึกถึงพระคุณความดี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ผู้มีอุปการะคุณทั้งหลาย ) โดยก่อนอธิษฐาน ให้ไหว้พระสวดมนต์ก่อน และทำตามลำดับ ดังนี้
1. กล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย (อะระหัง สัมมาฯ)
2. สวดพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ (อิติปิโสฯ)
3. รับไตรสรณคมณ์ (พุทธัง สะระณัง คัจฉามิฯ)
4. สมาทานศีล
5. กล่าวคำอธิษฐาน และอุทิศบุญ (ตามตัวอย่าง)
6. กรวดน้ำ อุทิศบุญกุศล (ตอนที่เอาน้ำไปเท ให้เทลงที่พื้นดิน และก่อนเทน้ำ ให้ตั้งจิตบอกแม่พระธรณีว่า “ ขอแม่พระธรณีทรงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญบุญกุศลของลูกนี้ด้วยเถิด ” ก็เป็นอันเรียบร้อย เสร็จพิธี

หมายเหตุ โดยปกติทั่วไป เรามักทำบุญโดยนิยมถวายสังฆทานกัน เพราะหาโอกาสทำได้ง่าย และได้อานิสงส์มาก แต่ในกรณีที่เราไม่ได้ถวายสังฆทาน ก็สามารถประยุกต์ใช้คำอธิษฐานนี้ ในการทำบุญ ทำทานประเภทอื่น ๆ ชนิดอื่นๆ ในแต่ละครั้งได้ โดยปรับให้เหมาะสมตามสถานการณ์ แล้วน้อมนำผลบุญที่ได้กระทำไปแล้วนี้ อุทิศไปให้แก่บุคคลที่เราปรารถนาจะอุทิศให้ สำหรับการกรวดน้ำ ถ้าไม่มีอุปกรณ์(คนโทกรวดน้ำ) ก็ให้ใช้ขวดเล็ก ๆ ใส่น้ำ แล้วเทรินใส่แก้วก็ได้ เสร็จแล้วก็เอาน้ำไปเทที่พื้นดิน และเมื่อทำบุญเสร็จแล้ว หากไม่มีโอกาสได้กรวดน้ำในตอนนั้น ณ สถานที่นั้น ก็ให้กลับมากรวดน้ำที่บ้านหรือที่พักก็ได้ และควรทำภายในวันนั้น การอธิษฐานและอุทิศบุญควรทำทุกวันที่ได้ถวายทาน หรือทุกวันที่ได้สร้างบุญกุศลให้เกิดขึ้น

ที่มา : หากเจอวิบากกรรมหนักต้องเร่งสร้างพลังบุญอย่างไร ของ ธ. ธรรมรักษ์

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559

คาถาขอทรัพย์พญานาคราช สำหรับลูกหลานพญานาค




คาถาบูชา ปู่นาคาธิบดีศรีสุทโธ

*****  นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ) ******

กายะวาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดีศรีสุทโธ วิสุทธิเทวา ปูเชมิ 
ทุติยัมปิ กายะวาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดีศรีสุทโธ วิสุทธิเทวา ปูเชมิ
ตะติยัมปิ กายะวาจะ จิตตัง อะหังวันทา นาคาธิบดีศรีสุทโธ วิสุทธิเทวา ปูเชมิ 
เมตตัญจะ จะมหาลาโภ ปิโยนาคะ ขันธปริตตัง. .


คาถาบูชา เจ้าย่านางพญานาคิณี ศรีปทุมมา (คู่บารมีของปู่ปู่นาคาธิบดีศรีสุทโธ) 

***** นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ) *****

กายะวาจะ จิตตัง อะหังวันทา นางพญานาคิณี ศรีปทุมมา วิสุทธิเทวี ปูเชมิ 
ทุติยัมปิ กายะวาจะ จิตตัง อะหังวันทา นางพญานาคิณี ศรีปทุมมา วิสุทธิเทวา ปูเชมิ
ตะติยัมปิ กายะวาจะ จิตตัง อะหังวันทา นางพญานาคิณี ศรีปทุมมา วิสุทธิเทวา ปูเชมิ 
เมตตัญจะ จะมหาลาโภ ปิโยนาคะ ขันธปริตตัง..



คาถาขอทรัพย์นี้เป็นคาถาขอทรัพย์ต่อ ท่านปู่พญานาคศรีสุทโธ ผู้ปกครองพญานาคในเขตประเทศไทย
ผู้ที่ขอทรัพย์นั้น จะต้องขอด้วยความเคารพ ซึ่งขั้นตอนจะต้องถือศีล 8 และรักษาศีลด้วยความบริสุทธิ์ตลอด 7 วัน และอุทิศบุญทั้งหมดให้ท่าน...สำหรับการขอนั้นให้ขอให้ได้ผ่านการงานที่ตนทำด้วยความขยันและเป็นสัมมาอาชีพ (ขอให้รวยจากหวยเนี่ยไม่ได้นะ)...
สำหรับผู้ที่ต้องการสวดทุกคืน ก็ขอให้สวดด้วยความเคารพท่าน...และต้องรักษาศีล 5 ให้ดี...และความเจริญรุ่งเรืองจึงจะมีต่อท่าน...

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เคล็ดลับการไหว้เจ้าที่ให้ถูกต้องเพื่อลดอุปสรรคและเสริมโชคลาภ

เคล็ดลับที่ว่านี้มาจาก พระครูวิสารสรจักษ์ หรือ หลวงปู่เงิน กตสาโร วัดเกาะแก้ว ผู้ประสาทเคล็ดนี้ให้แก่ท่านที่ประสพปัญหา ชีวิตไม่ราบรื่น มีอุปสรรค หรือว่าคนในบ้านเจ็บป่วยบ่อย หรือประสบอุบัติเหตุ บ่อยๆ นั้น อาจเป็นเพราะเราอาจจะไมได้ตั้งใจไปทำสิ่งใดที่อาจจะไม่ถูกใจเจ้าที่หรือผี บ้านผีเรือน หรือบางทีเราไม่ทราบว่าบ้านเรานั้นก่อนจะมาเป็นของเรามีสิ่งใดหรือมีอะไร อัปมงคลมาก่อน วิธีแก้ร้ายให้กลับคืนเป็นดี

ในตอนเช้าให้เตรียมการไหว้พระภูมิเจ้าที่ ศาลตายายในบ้านแบบง่ายๆคือ ดังนี้

1.ส้ม 4 ผล เป็นมงคล(ห้ามส้มโอ หรือส้มโอมือ)
2.ข้าวปลาอาหารที่ปรุงแล้วตามอัธยาศัย
3.ขนม หวานจะเป็นจับกิมทึ้งแบบจีน หรือ ขนมหวานแบบไทย จำพวกทองต่างๆๆก็ได้ และต้องมีขนมน้ำดอกไม้ด้วย(หลวงปู่บอกว่าเป็นเคล็ดในการขอขมาแบบว่าในปีๆๆ หนึ่งเราอาจเคยล่วงเกินเจ้าที่เจ้าทางขนมน้ำดอกไม้เป็นเครื่องแสดงการขอขมา)
4.พวงมาลัย จะเป็นดาวเรือง หรือเจ็ดสีเจ็ดศอกก็ได้ตามฐานานุรูป
5.ธูป


เสริมดวงด้วยการไหว้เจ้าที่



โดยการนำเครื่องไหว้ไปวางหน้าศาล พระภูมิ ศาลตายายแล้วจุดธูป สวดพระมนต์ขอขมาดังนี้


*** ตั้งนโม 3 จบ ***

"อิติสุคโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง"

จุดธูปบอกเจ้าที่อธิษฐานว่าวันนี้ลูกจะทำความสะอาดบ้าน สิ่งใดที่ลูกเคยล่วงเกินพระภูมิเจ้าที่ คุณตาคุณยายก็ขอโทษ สิ่งใดไม่ดีก็ขอให้ไปกับสิ่งสกปรกที่จะทำความสะอาดวันนี้ด้วยเถิด

แล้วอธิษฐานขอพรตามปรารถนาจากนั้นปักธูป เสร็จแล้วพอธูปหมดดอกจึงเริ่มทำความสะอาดบ้าน

โดยให้ทำตามเคล็ดเป็นลำดับดังนี้คือ

ให้ทำความสะอาด ฝาบ้าน เพดาน ตามซอกตามมุม แล้ว เอาฝุ่นละอองมารวมกองไว้ที่เดียว แล้วห่อด้วยผ้าขาวให้มิดชิด นำห่อผ้าขาว ไปทิ้งที่บริเวณถังขยะในวัดใดวัดหนึ่ง ทิ้งแล้วห้ามเหลียวหลังดูเป็นอันขาด เป็นการเหมือนกับเอาสิ่งอัปมงคลออกไปจากบ้าน

ฉะนั้นห้ามหันไปดูเป็นอันขาดจาก นั้นให้เอาน้ำพระพุทธมนต์หน้าพระประธานในบ้าน(ถ้ามี) หรือไปขอน้ำพระพุทธมนต์ตามวัดที่ดังๆ เช่น วัดสุทัศน์ วัดสระเกส วัดอินทรวิหารเป็นต้น หรือ ขอมาจากพระสงฆ์ ที่เรานับถือพรมตามเพดาน ฝาบ้าน และบริเวณบ้านให้ทั่ว ระหว่างพรมให้ตั้งจิตคิดแต่สิ่งดีดีที่เป็นมงคล ห้ามทุกคนในบ้านด่าหรือพูดคำอัปมงคลใส่กัน

เสร็จแล้วในรุ่งเช้าของอีก วันให้ตักบาตร หรือทำสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลให้แก่พระภูมิเจ้าที่ เจ้าทางผีบ้านผีเรือน โดยเฉพาะ เพื่อเป็นเคล็ดให้ท่านเฝ้าปกป้องคุ้มภัยให้เราครับหมายเหตุ หลวงปู่เงิน กตสาโร ท่านว่าการไหว้พระภูมิเจ้าที่แบบนี้อธิษฐานสิ่งใดภูมิเทวดาท่านจะอนุเคราะห์ สุดความสามารถและ เจ้ากรรมนานเวรได้ยินจะยอมอโหสิกรรมให้ จึงทำแล้วดีทางเมตตาและคุ้มครองภัยในบ้านจะหมดทุกข์หมดโศก โรคภัยไข้เจ็บจะหาย ครอบครัวเป็นสุข เทวดาคุ้มครอง...



ที่มา : เคล็ดทำความสะอาดบ้านเพื่อชีวิตมีสุข(ตำรับหลวงปู่เงิน กตสาโร)

บทความที่ได้รับความนิยม